ข่าวเศรษฐกิจ

Bloomberg New Energy Finance (BNEF) เปิดเผยยอดจำหน่าย EV สะสมของโลกในปี 2565 ดังนี้ 1) รถจักรยานยนต์และรถสามล้อ EV จำนวน 292.4 ล้านคัน ซึ่งคิดเป็น 49% ของจำนวนจักรยานยนต์และรถสามล้อสะสมทั้งหมดทั่วโลก 2) รถบรรทุก EV 965,442 คัน คิดเป็น 3% ของรถบรรทุกทั้งหมด 3) รถยนต์นั่ง EV 26.6 ล้านคัน คิดเป็น 14% ของรถยนต์นั่งทั้งหมด และ 4) รถโดยสาร EV 666,479 คัน คิดเป็นสัดส่วน 38% ของรถโดยสารทั้งหมด

         สำหรับไทย EV มีสัดส่วนราว 5% ของยอดจำหน่ายรถยนต์รวมทั้งประเทศซึ่งมีจำนวน 8-9 แสนคัน เนื่องจากไทยมีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมจากภาครัฐ รวมถึงผู้ผลิตจากจีนนำเสนอแบรนด์ EV ที่หลากหลาย ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้สะดวกขึ้น ส่วน EV ที่จำหน่ายในอาเซียนกว่า 50% เป็นแบรนด์จากจีน ทั้งนี้ BNEF ประเมินว่ายอดจำหน่าย EV ทั่วโลกจะเพิ่มจาก 10.5 ล้านคันในปี 2565 เป็น 75 ล้านคันในปี 2583 โดยจีนจะมีส่วนแบ่งในตลาด EV ถึง 90% ขณะเดียวกัน ยอดจำหน่ายรถยนต์สันดาปอยู่ในช่วงขาลง โดยคาดว่าในปี 2569 ยอดจำหน่ายรถยนต์สันดาปจะหดตัวลงสูงสุดถึง 39% จากยอดจำหน่ายรวม 83 ล้านคันทั่วโลกในปี 2560   

       นอกจากนี้ ตลาด EV ยังได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มราคาแบตเตอรี่ที่ลดลง โดยปัจจุบัน แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนต่อกิโลวัตต์มีราคา 124 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง BNEF ประเมินว่าในปี 2569 จะมีราคา 100 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2573 จะมีราคา 77 ดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2578 จะเหลือเพียง 62 ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ราคา EV ต่ำลงจนมีราคาเท่ากับรถยนต์สันดาป ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ EV ได้ง่ายขึ้น (https://about.bnef.com/electric-vehicle-outlook และ prachachat.net, 6 ก.ค. 2566)