ข่าวเศรษฐกิจ
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า บริษัทฯ แทบไม่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) รองรับ ทำให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นถูกส่งผ่านไปยังค่าพลังงานไฟฟ้า และโรงไฟฟ้าในต่างประเทศก็มีการขายในตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า (Power Pool) รวมแล้ว 98% ของกำลังการผลิต คงมีเพียง 2% หรือราว 92 เมกะวัตต์ (MW) เท่านั้นที่เป็นการขายไฟฟ้าให้ภาคอุตสาหกรรมซึ่งจะได้รับผลกระทบจากค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเน้นขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวมรวม 1,364 MW รวมทั้งจะศึกษาและพัฒนาการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากไฮโดรเจน ขณะเดียวกัน บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ก็ได้รับผลกระทบจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่มีสัญญา PPA ทำให้ส่งผ่านค่าเชื้อเพลิงไปให้ผู้ซื้อไฟฟ้า โดยในปี 2565 RATCH มีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่อีก 700 MW แบ่งเป็นโครงการประเภทเชื้อเพลิงฟอสซิล ไม่น้อยกว่า 450 MW และโครงการประเภทพลังงานทดแทน ไม่น้อยกว่า 250 MW ทำให้สิ้นปี 2565 มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนเพิ่มเป็น 9,815.14 MW สอดรับเป้าหมายในปี 2568 จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 10,000 MW (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา, 10 มี.ค. 2565)