ข่าวเศรษฐกิจ
องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ออกรายงานฉบับล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2565 ระบุว่า สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนกำลังส่งผลกระทบในวงกว้างต่อระบบอาหารทั่วโลก โดยคาดว่าราคาอาหารทั่วโลก รวมถึงสินค้าทางการเกษตรและอาหารสัตว์ มีแนวโน้มสูงขึ้นถึง 22% ในช่วงปี 2565-2566 เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ยูเครนเป็นผู้ส่งออกอันดับ 5 ของโลก โดยทั้งสองประเทศส่งออกข้าวบาร์เลย์รวมกัน 19% ของการส่งออกทั่วโลก ข้าวสาลี 14% และข้าวโพด 4% ซึ่งรวมแล้วการส่งออกธัญพืชของสองประเทศมีสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3 ของการส่งออกทั่วโลก นอกจากนี้ รัสเซียและยูเครนยังเป็นผู้นำในการส่งออกสินค้าการเกษตรอื่นๆ อย่างน้ำมันดอกทานตะวันและน้ำมันเรปซีด (Rapeseed) รวมถึงปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตร โดย FAO ประเมินว่า ในปี 2565 ยูเครนจะสูญเสียผลผลิตจากพื้นที่เพาะปลูกราว 20-30% ทั่วประเทศ ขณะที่ภาคเกษตรของรัสเซียแม้ไม่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ แต่ก็ไม่สามารถส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่างๆ ได้สะดวก ส่วนภาคเกษตรทั่วโลกก็ได้รับผลกระทบจากต้นทุนราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ FAO คาดว่าการส่งออกข้าวสาลีและข้าวโพดของรัสเซียและยูเครนจะลดลงรวมกันถึง 25 ล้านตัน และเมล็ดพืชน้ำมันลดลงราว 3 ล้านตัน ทำให้ปริมาณอาหารในตลาดโลกลดลงอย่างฉับพลัน ขณะที่หลายประเทศไม่สามารถหาแหล่งอาหารทดแทนได้ในทันที จึงมีส่วนทำให้ราคาอาหารปรับสูงขึ้น (www.prachachat.net, 16 มี.ค. 2565)