ข่าวเศรษฐกิจ
บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เตรียมเปิดสำนักงานแห่งใหม่ที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส หลังจากที่ BPP ได้ขยายการลงทุนเข้าไปยังสหรัฐฯ โดยล่าสุดในเดือน พ.ย. 2564 ได้เข้าไปซื้อโรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ Temple I ขนาดกำลังการผลิต 768 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งเป็นการถือหุ้นร่วมกับ BKV ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกลุ่มบ้านปู ในสัดส่วน 50:50 ถือเป็นการต่อยอดระบบ Ecosystem ของกลุ่มบ้านปูในสหรัฐฯ ทั้งนี้ จากการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศของ BPP ทำให้เห็นว่าการเข้าไปลงทุนในประเทศที่เป็นตลาดค้าไฟฟ้าเสรี จะต้องทำธุรกิจค้าขายไฟฟ้า (Energy Trading) ด้วย ต่างจากในไทย เวียดนาม หรือประเทศในอาเซียนที่จะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) ทำให้ทราบล่วงหน้าว่ารายได้จากการขายไฟฟ้าในอีก 20-25 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ในญี่ปุ่น สหรัฐฯ และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่ตลาดค้าไฟฟ้าเสรี ค่าไฟฟ้าจะเปลี่ยนทุกๆ 15 นาทีตามอุปสงค์-อุปทาน จึงไม่สามารถคาดการณ์รายได้จากค่าไฟฟ้าในอนาคตได้ ซึ่งระบบค้าไฟฟ้าเสรีกำลังขยายออกไปยังประเทศอื่นๆ มากขึ้น เช่น จีน มีหลายพื้นที่ที่จะเริ่มต้นทำ Energy Trading เวียดนามก็อยู่ระหว่างหารือและกำลังจะกำหนดเป็นนโยบาย เพราะจะส่งผลดีต่อผู้บริโภค บริษัทฯ จึงอยู่ระหว่างศึกษาการพัฒนาระบบจัดเก็บไฟฟ้า (Energy Storage) ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในตลาดเสรี (ประชาชาติธุรกิจ, 16-19 เม.ย. 2565)