ข่าวเศรษฐกิจ
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในช่วง 2 เดือนสุดท้ายมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากก่อนหน้านี้ที่ขยายตัว 10.6% หลัง ส.อ.ท. พบสัญญาณเตือนการส่งออกไปตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ ย่อตัวลง โดยปัจจัยสำคัญมาจากสหรัฐฯ มีต้นทุนในการนำเข้าสินค้าสูงขึ้น เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะกึ่งถดถอย กำลังซื้อหดตัว การระบายสินค้าในสต็อกจึงทำได้ช้าลง ผู้นำเข้าสหรัฐฯ จึงใช้วิธีลดการนำเข้าสินค้าจากทั่วโลกเพื่อลดสต็อกลง โดยคาดว่าความรุนแรงของสถานการณ์นี้จะกินเวลายาวต่อเนื่องไปถึงปี 2566 ทั้งนี้ ส.อ.ท. คาดว่ามูลค่าส่งออกของไทยในปี 2565 จะยังเติบโตได้ 8% ตามเป้า แต่การส่งออกปี 2566 จะเติบโตเพียง 4% จากฐานที่สูงขึ้น และเศรษฐกิจโลกถดถอย สำหรับสินค้าที่จะได้รับผลกระทบเป็นลำดับแรกคือสินค้ากึ่งฟุ่มเฟือย เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ และเสื้อผ้า ขณะที่ยานยนต์และส่วนประกอบอาจได้รับผลกระทบซ้ำเติมปัญหาการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Disruption) ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วย ส่วนสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์น่าจะยังส่งออกได้ เพราะยังมีความจำเป็นต้องปรับตามเทคโนโลยี เช่นเดียวกับกลุ่มอาหารซึ่งเป็นสินค้าจำเป็นที่จะไม่ได้รับผลกระทบ (ประชาชาติธุรกิจ,17-20 พ.ย. 2565)