ข่าวเศรษฐกิจ
สายการบินไทยเวียตเจ็ทประเมินว่า ปริมาณขนส่งผู้โดยสารไตรมาส 4/2565 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการที่หลายประเทศในเอเชียผ่อนคลายมาตรการการเดินทาง ประกอบกับอยู่ในช่วงฤดูท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการบินในประเทศเพียงอย่างเดียวแทบจะไม่มีกำไร เนื่องจากเวียตเจ็ทมีอัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบินประมาณวันละ 10 ชม. จาก 12 ชม. ก่อน COVID-19 ระบาด ซึ่งเวียตเจ็ทจะเริ่มมีกำไรก็ต่อเมื่ออัตราดังกล่าวมีขั้นต่ำอยู่ที่วันละ 10-12 ชม. ดังนั้น จึงต้องเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศที่บินไกลและบินในเวลากลางคืนด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเวียตเจ็ทยังไม่สามารถให้บริการเส้นทางบินสู่จีนได้เต็มที่ เนื่องจากทางการจีนอนุญาตให้สายการบินของไทยทำการบินไปยังจีนเพียงสัปดาห์ละ 15-20 เที่ยวบินเท่านั้น และต้องแบ่งโควตากับสายการบินอื่นๆ ทั้งนี้ เวียตเจ็ทประเมินว่าจีนจะผ่อนคลายมาตรการเข้า-ออกพรมแดนในไตรมาส 2/2566 สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อสายการบินไตรมาส 4/2565 ได้แก่ 1) ราคาน้ำมันที่ยังผันผวนและอยู่ในระดับสูง เนื่องจากราคาน้ำมันเป็นต้นทุนราว 1 ใน 3 ของสายการบิน ส่งผลให้บัตรโดยสารมีราคาสูงตามไปด้วย และไม่ดึงดูดให้ลูกค้าใช้บริการ 2) เงินบาทอ่อนค่า ซึ่งสายการบินมีรายรับส่วนใหญ่เป็นเงินบาท แต่มีรายจ่ายส่วนใหญ่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ และ 3) สถานการณ์ COVID-19 ที่แม้หลายประเทศในเอเชียจะผ่อนคลายมาตรการ แต่ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป (prachachat.net, 27 พฤศจิกายน 2565)