ข่าวเศรษฐกิจ
EU บรรลุข้อตกลงในการห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่ถือเป็น "ตัวขับเคลื่อนหลักที่ทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่า" ซึ่งรวมถึงปาล์มน้ำมัน โคกระบือ ถั่วเหลือง กาแฟ โกโก้ ไม้ซุง และยางพารา โดยผู้จัดจำหน่ายสินค้าเหล่านี้ใน EU จะต้องพิสูจน์ว่าสินค้าที่จำหน่ายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่าที่เกิดขึ้นหลังเดือนธันวาคม 2563 มิฉะนั้นจะต้องเสียค่าปรับสูงสุด 4% ของยอดจำหน่ายทั้งปี คาดว่ากฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2566 และหลังจากนั้น ผู้ประกอบการและผู้นำเข้าจะมีเวลาปรับตัว 18 เดือน ขณะที่บริษัทขนาดเล็กจะมีเวลาปรับตัวถึง 24 เดือน ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ประมาณการว่ากฎหมายดังกล่าวจะช่วยรักษาพื้นที่ป่าไม้ไว้ได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 71,920 เฮกตาร์ (เกือบ 4.5 แสนไร่) และลดการปล่อยคาร์บอนได้ปีละ 31.9 ล้านตัน หรือเท่ากับปริมาณการปล่อยคาร์บอนของเดนมาร์กในปี 2564 (www.matichon.co.th และ www.thaipost.net, 6 ธ.ค. 2565 และ www.bbc.com, 7 ธ.ค. 2565)