ข่าวเศรษฐกิจ
กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าขณะนี้ผู้ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีในประเทศใช้กำลังผลิตเพียง 20-30% เท่านั้น ส่วนอีก 70-80% ของตลาดล้วนเป็นสินค้านำเข้า โดยเฉพาะที่นำเข้าจากจีน ซึ่งมีอิทธิพลสูงมากต่อการผลิตและการกำหนดราคาในตลาด ทั้งนี้ ปัจจุบันผู้ผลิตในประเทศไม่สามารถแข่งขันด้านราคากับสินค้านำเข้าจากจีนได้ เพราะราคานำเข้าเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีจากจีนต่ำกว่าราคาเหล็กแผ่นรีดเย็น (ซึ่งเป็นวัตถุดิบก่อนนำมาเคลือบสังกะสี) ในประเทศ ส่วนสินค้าที่ผู้ผลิตไทยยังผลิตและจำหน่ายได้จะเป็นแบบและขนาดที่โรงงานในจีนไม่ผลิต เนื่องจากขนาดตลาดค่อนข้างเล็ก ดังนั้นจึงคาดว่าภาพของอุตสาหกรรมเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีจะเปลี่ยนไป โดยผู้ผลิตรายเดิมจะค่อยๆ เลิกผลิต หรือผลิตน้อยลง แต่จะมีผู้ผลิตรายใหม่ที่เป็นผู้ผลิตวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นเหล็กแผ่นรีดร้อนหรือเหล็กแผ่นรีดเย็น ที่ต่อยอดโดยเพิ่มการเคลือบสังกะสีหรือเคลือบอื่นๆ มากขึ้น เพราะการเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบเองจะแข่งขันได้ดีกว่าผู้ผลิตรายเดิม
นอกจากนี้ การใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dunping Duty : AD) ของไทยไม่ได้ครอบคลุมสินค้าทดแทนในลักษณะที่เหมือนกัน (Like Product) แต่เป็นการใช้มาตรการกับสินค้าแบบเฉพาะเจาะจง เช่น เฉพาะเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี ส่งผลให้มีการนำเข้าสินค้าที่เคลือบสังกะสีและผสมสารอื่นอีกเล็กน้อย เช่น อะลูมิเนียม หรือแมกนีเซียม เพื่อหลบเลี่ยงมาตรการ AD เป็นจำนวนมาก (www.thansettakij.com, 15 ม.ค. 2566)