ข่าวเศรษฐกิจ
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก เปิดเผยว่า รัฐอิลลินอยส์ในสหรัฐฯ ได้ออกกฎหมายห้ามใช้ถุงมือยางซึ่งผลิตจากยางธรรมชาติ (Latex Gloves) ในกลุ่มธุรกิจบริการอาหาร (Food Service) และกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (Healthcare) โดยเริ่มบังคับใช้ในกลุ่มผู้ให้บริการอาหาร และกลุ่มผู้ให้บริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน (Emergency Medical Services : EMS) ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา และจะขยายสู่กลุ่มผู้ให้บริการทางการแพทย์ทั่วไปวันที่ 1 ม.ค. 2567 เนื่องจากตรวจพบว่าประชาชนในสหรัฐฯ กว่า 3 ล้านคนมีอาการแพ้สารจากยางธรรมชาติ ทั้งนี้ รัฐอิลลินอยส์นับเป็นรัฐที่ 8 ในสหรัฐฯ ที่ใช้กฎหมายดังกล่าวต่อจากรัฐแอริโซนา รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐคอนเนตทิคัต รัฐฮาวาย รัฐโอไฮโอ รัฐโรดไอแลนด์ รัฐแมสซาชูเซตส์ และเมืองบอสตัน
ทั้งนี้ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT เปิดเผยว่า กฎหมายห้ามใช้ถุงมือยางธรรมชาติของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการส่งออกถุงมือยางของบริษัทฯ ไม่มากนัก เนื่องจากเป็นการบังคับใช้กฎหมายเพียงบางรัฐ อีกทั้งถุงมือยางที่จำหน่ายไปสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นถุงมือยางไนไตรล์หรือยางสังเคราะห์ อีกทั้งเครื่องจักรส่วนใหญ่ของบริษัทฯ สามารถผลิตได้ทั้งยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ จึงปรับเปลี่ยนได้ทัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังส่งถุงมือ Non Detectable Protein เข้าไปทำตลาดในสหรัฐฯ ทดแทนถุงมือยางธรรมชาติปกติด้วย จึงคาดว่ายอดส่งออกปี 2566 จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเริ่มเห็นความต้องการใช้กลับมาตั้งแต่ไตรมาส 4/2565 (ประชาชาติธุรกิจ, 30 ม.ค.-1 ก.พ. 2566)