ข่าวเศรษฐกิจ
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้เปิดรับฟังความคิดเห็น (ร่าง) หลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว (Utility Green Tariff : UGT) โดยหวังว่าจะช่วยลดอุปสรรคในการปฏิบัติตามเงื่อนไขภาษีคาร์บอนข้ามแดนและข้อกีดกันทางการค้าที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการไทยในระยะยาว โดยกำหนดแนวทางอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวเป็น 2 รูปแบบ คือ
1) แบบที่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ต้องการเจาะจงแหล่งที่มาของไฟฟ้า (UGT1) เป็นการให้บริการเกี่ยวกับใบรับรองการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate : REC) ของโรงไฟฟ้าเดิมที่รัฐมีกรรมสิทธิ์มาให้บริการร่วมกับการให้บริการพลังงานไฟฟ้า โดยจะคิดเป็นอัตราค่าบริการส่วนเพิ่ม (Premium) จากอัตราค่าไฟฟ้าตามบิลค่าไฟฟ้าปกติ ซึ่งผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถสมัครขอรับบริการในปริมาณต่ำกว่า 1 REC ได้ (1 REC = 1,000 หน่วย) และมีระยะเวลาการขอรับบริการสั้น (0-1 ปี) เหมาะกับผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่มากและไม่ต้องการผูกพันสัญญาระยะยาว รวมถึงกลุ่มที่ต้องการไฟฟ้าสีเขียวน้อยกว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด โดยไม่ต้องการเจาะจงผู้ผลิตไฟฟ้า
2) แบบที่ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องการเจาะจงแหล่งที่มาของไฟฟ้า (UGT2) สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้ไฟฟ้ามากและต้องการให้เกิดการพัฒนาโรงไฟฟ้าสะอาดใหม่ เข้ามารับภาระในการพัฒนาโรงไฟฟ้าใหม่โดยทำสัญญาระยะยาว (10-25 ปี) ในการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งไฟฟ้านั้น 100% และมีการออกแบบโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ เนื่องจากมีการซื้อพลังงานไฟฟ้าพร้อม REC จากแหล่งพลังงานแบบเจาะจงที่มาในระยะยาว เข้ามาแทนพลังงานไฟฟ้าเดิม และมีการให้บริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างหลักเกณฑ์ฯ ฉบับดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.- 7 มี.ค. 2566 ก่อนจะรวบรวมความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาเห็นชอบหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวทั้งสองรูปแบบภายในเดือน มี.ค. 2566 (www.energynewscenter.com, 22 ก.พ. 2566)