ข่าวเศรษฐกิจ
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเปิดเผยว่า ฟิลิปปินส์ได้ยื่นสัตยาบันสารรับปฏิบัติตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ต่อสำนักเลขาธิการอาเซียน ซึ่งถือเป็นสมาชิกประเทศสุดท้ายที่ให้สัตยาบันความตกลง RCEP หลังจากสมาชิก 14 ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา สปป.ลาว สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เมียนมา เกาหลีใต้ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ให้สัตยาบันความตกลงไปก่อนหน้านี้ โดยความตกลง RCEP จะมีผลบังคับใช้กับฟิลิปปินส์อย่างสมบูรณ์ในวันที่ 2 มิ.ย. 2566 และถือว่าสมาชิกผู้ก่อตั้ง RCEP ทั้ง 15 ประเทศ ได้ให้สัตยาบันความตกลงครบแล้ว
ทั้งนี้ การให้สัตยาบันความตกลง RCEP จะส่งผลให้ฟิลิปปินส์ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรในกลุ่มสินค้าประมง พลาสติก แก้ว และชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ฟิลิปปินส์ยังไม่ได้เปิดตลาดภายใต้ FTA อาเซียน-จีน อาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียน-เกาหลีใต้ และอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะเลือกใช้วัตถุดิบจากฟิลิปปินส์ในการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปยังสมาชิก RCEP อื่นที่มิใช่อาเซียน รวมทั้งยังสามารถนำวัตถุดิบจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มาใช้ในการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปฟิลิปปินส์ ซึ่งจะได้รับการลดหรือยกเว้นภาษีศุลกากรภายใต้ RCEP (www.thansettakij.com, 15 เม.ย. 2566)