ข่าวเศรษฐกิจ
การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (ท่าเทียบเรือ F) ว่าในส่วนของการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ กทท. ดำเนินงาน คือ การก่อสร้างงานทางทะเลเพื่อรองรับการก่อสร้างท่าเทียบเรือ ถนน และระบบสาธารณูปโภค ระบบรถไฟ จำนวน 4 งานนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างเร่งรัดการก่อสร้างงานที่ 1 คือ การขุดลอก ถมทะเล สร้างเขื่อนกันคลื่น ซึ่ง กทท.ได้ลงนามสัญญากับกิจการร่วมค้า ซีเอ็นเอ็นซี (CNNC) อันประกอบด้วยบริษัท เอ็น.ที.แอล.มารีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) บริษัท นทลิน จำกัด และบริษัท จงก่าง คอนสตรั๊คชั่น กรุ๊ป จำกัด (ประเทศจีน) วงเงิน 21,320 ล้านบาท เป็นผู้รับจ้าง ไปเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2563 ออกหนังสือเริ่มงาน (NTP) เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2564 ระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญา 4 ปีกำหนดแล้วเสร็จวันที่ 3 พ.ค. 2568 เนื่องจากพบว่าขณะนี้งานล่าช้ากว่า 40% หรือเกือบ 2 ปีแล้ว โดยมีค่าปรับวันละ 0.01% หรือ วันละ 2.132 ล้านบาท ทั้งนี้ ความล่าช้าดังกล่าวอาจส่งผลต่อการส่งมอบพื้นที่ให้กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ซึ่งประกอบด้วย บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (PTT TANK) บริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้รับสัมปทานโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ระยะที่ 1 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ในการเข้าดำเนินการก่อสร้างท่าเทียบเรือ ลานวางตู้ อาคารสำนักงาน ติดตั้งเครื่องมือ ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี และมีกำหนดเปิดดำเนินการในระยะแรกได้ในปลายปี 2568 (https://mgronline.com, 21 เม.ย. 2566)