ข่าวเศรษฐกิจ
ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบผลการคำนวณค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (ค่า Ft) งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2566 ซึ่งประกอบด้วยค่า Ft แท้จริงหน่วยละ 28.58 สตางค์ เมื่อรวมค่าไฟฟ้าฐานหน่วยละ 3.78 บาท ทำให้มีค่าไฟฟ้าแท้จริงหน่วยละ 4.07 บาท อย่างไรก็ตาม ยังมีหนี้ค่าไฟฟ้าที่ กฟผ.แบกรับแทนประชาชนตั้งแต่ปี 2564 ถึงปัจจุบันอีก 135,297 ล้านบาท ที่ต้องทยอยจ่ายคืนในรูปของค่า Ft จึงได้แบ่งแนวทางการคำนวณค่า Ft และการชำระหนี้คืน กฟผ. เป็น 3 กรณี เพื่อให้สำนักงาน กกพ. นำไปเปิดรับฟังความเห็นประชาชนต่อไป ดังนี้
กรณีที่ 1 จ่ายคืนหนี้ กฟผ. ทั้งหมด จะทำให้มีค่า Ft หน่วยละ 249.81 สตางค์ (2.50 บาท) รวมกับค่าไฟฟ้าฐานอีกหน่วยละ 3.78 บาท ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็นหน่วยละ 6.28 บาท
กรณีที่ 2 ตรึงค่า Ft เท่างวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 2566 ที่หน่วยละ 91.19 สตางค์ รวมกับค่าไฟฟ้าฐาน 3.78 บาท ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) คงเดิมที่หน่วยละ 4.70 บาท
กรณีที่ 3 เป็นกรณีที่ กฟผ.เสนอจ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างใน 5 งวด งวดละ 23,428 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีค่า Ft หน่วยละ 66.89 สตางค์ รวมกับค่าไฟฟ้าฐาน 3.78 บาท จะทำให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมปรับลดลงจากงวด พ.ค.-ส.ค. 2566 เหลือหน่วยละ 4.45 บาท
อย่างไรก็ตาม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าขณะนี้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) อยู่ระหว่างจัดทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาลดค่าไฟฟ้างวดปลายปีเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยให้ลดจากหน่วยละ 4.70 บาทในปัจจุบัน ให้เหลือหน่วยละ 4.25 บาทหรือน้อยกว่า (www.thansettakij.com และ www.energynewscenter.com, 7 ก.ค. 2566)