ข่าวเศรษฐกิจ
คณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC เปิดเผยว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นร่างแผนภาพรวมเพื่อการพัฒนา EEC ปี 2566-2570 ซึ่งแผนแม่บทดังกล่าวจะทบทวนเรื่องสิทธิประโยชน์ที่ให้แก่นักลงทุน โดยตั้งเงื่อนไขการเจรจาเฉพาะรายเพื่อให้ไทยได้ประโยชน์มากที่สุด เช่น กรอบสิทธิประโยชน์กำหนดการยกเว้นภาษี 15 ปีซึ่งสูงกว่าสิทธิประโยชน์ของ BOI แต่นักลงทุนอาจได้รับสิทธิประโยชน์แตกต่างกัน แม้จะมาจากประเทศเดียวกัน ขึ้นอยู่กับข้อแลกเปลี่ยนว่านักลงทุนต่างประเทศมีข้อเสนออะไรให้ไทยบ้าง เช่น หากต้องการได้รับยกเว้นภาษี 15 ปี มีเงื่อนไขต้องเปิดให้ชาวไทยถือหุ้น 20% หรือใช้วัตถุดิบที่ผลิตโดยคนไทยหรือบริษัทไทย 30% เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2566
นอกจากนี้ สกพอ. ยังเตรียมออกกฎหมายลูก 44 ฉบับ โดยมี 20 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติอนุญาต ทั้งเรื่องการออกใบอนุญาตสิ่งปลูกสร้าง ใบอนุญาตตั้งโรงงาน ใบอนุญาตวีซ่าให้ชาวต่างชาติที่คล้าย Long-Term Resident Visa (LTR) ของ BOI แต่มีความแตกต่างในเรื่องเวลาและเงื่อนไขที่ชัดเจนกว่า โดยในกฎหมายลูกให้อำนาจ สกพอ.พิจารณาจบที่เดียว (One Stop Service) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน ทั้งนี้ ตามแผนภาพรวมเพื่อการพัฒนา EEC คาดว่าภายใน 5 ปีจะมีการลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากแผนระยะที่ 1 (2561-2565) ซึ่งมีการลงทุน 2 ล้านล้านบาท (www.prachachat.net, 22 ก.ค. 2566)