ข่าวเศรษฐกิจ
บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 ว่ายอดจำหน่ายชะลอลง 4% (q-o-q) เนื่องจากยอดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ครบวงจรในอินโดนีเซียลดลงจากการมีวันหยุดยาวในไตรมาสที่ผ่านมา แต่มีกำไรเพิ่มขึ้น 22% (q-o-q) จากการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพโดยการรวมคำสั่งซื้อวัตถุดิบและจองระวางเรือขนส่งสินค้า และเพิ่มการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวเนื่อง (Cross-Selling) ทั้งยังได้รับปัจจัยหนุนจากต้นทุนวัตถุดิบ ราคาพลังงาน และค่าระวางเรือที่ลดลง รวมถึงการปรับสัดส่วนการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาด โดยเพิ่มการผลิตเยื่อเคมีละลายน้ำได้ (Dissolving Pulp) ซึ่งจำหน่ายได้ราคาดี เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่เพิ่มขึ้น
สำหรับปี 2566 บริษัทฯ ตั้งงบลงทุน 18,000 ล้านบาท โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นงบสำหรับการขยายธุรกิจผ่านการควบรวมกิจการ (Merger & Partnership) 9,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเตรียมเข้าลงทุนใน Starprint Vietnam JSC (SPV) คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปลายไตรมาส 3/2566 เพื่อรองรับการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษในเวียดนามที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างพัฒนา Bio-based Plastic จากชิ้นไม้ยูคาลิปตัสสับ ร่วมกับบริษัทระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่าง Origin Materials ซึ่งล่าสุดได้ผลทดสอบในห้องปฏิบัติการเป็นที่น่าพอใจ พร้อมเข้าสู่ขั้นตอน Pilot Plant Scale และเลือกพันธมิตรเพื่อร่วมพัฒนาในขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ SCGP ยังวิจัยและพัฒนา Wooden Food Service Packaging จากไม้ยูคาลิปตัส เพื่อตอบโจทย์การใช้บรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลกที่ย่อยสลายได้ และเพิ่มมูลค่าให้ไม้ยูคาลิปตัส (https://mgronline.com, 25 ก.ค. 2566)