ข่าวเศรษฐกิจ
คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชนตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยจะปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 2.50 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 20 ก.ย.-31 ธ.ค. 2566 โดยใช้กลไกของภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกินลิตรละ 30 บาท รวมถึงตรึงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม (LPG) ขนาดถัง 15 กิโลกรัม ไว้ที่ 423 บาท ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.-31 ธ.ค. 2566 ผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งจะมีมาตรการช่วยเหลือส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือกลุ่มเป้าหมาย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่วนราคาน้ำมันเบนซิน กระทรวงพลังงานจะพิจารณารายละเอียดแนวทางการช่วยเหลือแบบมุ่งเป้าให้แก่ผู้ใช้น้ำมันเบนซินกลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างและแท็กซี่ และนำเสนอ ครม.พิจารณาอีกครั้ง
สำหรับค่าไฟฟ้า จะปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าที่ประกาศเรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้าในรอบเดือน ก.ย-ธ.ค. 2566 ลงจากหน่วยละ 4.45 บาท เหลือหน่วยละ 4.10 บาท โดยกระทรวงพลังงานร่วมกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะดำเนินการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการคิดราคาก๊าซธรรมชาติ Pool Gas ให้ไม่เกินค่าประมาณการคงที่ราว 305 บาทต่อล้านบีทียู และให้นำส่วนต่างของราคาก๊าซธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงกับค่าก๊าซธรรมชาติที่เรียกเก็บไปทยอยเรียกเก็บคืน ซึ่งจะทำให้ปรับลดราคาค่าไฟฟ้าลงได้อีก รวมทั้งช่วยเหลือส่วนลดค่าไฟฟ้าเพิ่มเติมให้แก่กลุ่มเปราะบาง อาทิ การให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเดือนละ 150 หน่วย โดยกระทรวงพลังงานจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป (https://thaipublica.org, 13 ก.ย. 2566)