ข่าวเศรษฐกิจ
ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันกลุ่มเบนซินทุกประเภทลงลิตรละ 1 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2566 เป็นต้นไป จากอัตราปัจจุบันลิตรละ 6.50 บาท ส่งผลให้น้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกประเภทมีราคาลดลงโดยลดหลั่นตามอัตราส่วนผสมของน้ำมันเบนซินชนิดนั้น เช่น E10 (น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91, 95) ภาษีจัดเก็บลดลงลิตรละ 90 สตางค์ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ลดลงลิตรละ 80 สตางค์ และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ลดลงลิตรละ 15 สตางค์
และเพื่อให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลงลิตรละ 2.50 บาทตามที่กระทรวงพลังงานเคยเสนอไว้ จึงให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปบริหารจัดการเพื่อให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลงอีกลิตรละ 1.60 บาท ซึ่งกองทุนฯ จะลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง โดยจะพิจารณาสถานการณ์ราคาน้ำมันโดยรวมในวันที่ 6 พ.ย. 2566 แล้วประกาศใหม่เพื่อให้มีผลในวันที่ 7 พ.ย. 2566 ทั้งนี้ ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด ณ วันที่ 29 ต.ค. 2566 ยังติดลบ 74,292 ล้านบาท โดยแยกเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 28,938 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ 45,354 ล้านบาท (www.energynewscenter.com, 31 ต.ค. 2566)