ข่าวเศรษฐกิจ

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้จัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือค่าเหยียบแผ่นดิน ในอัตราครั้งละ 300 บาท สำหรับการเดินทางทางอากาศ และ 150 บาทสำหรับทางบกและทางน้ำ ขณะที่สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ระบุว่ารัฐบาลยุบกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตั้งแต่เดือน ก.ย. 2565 โดยจะจัดตั้งกองทุนใหม่แทน ซึ่งงบประมาณจะมาจากการจัดเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการจัดเก็บ แต่การจัดสรรงบประมาณ 50 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติกรณีบาดเจ็บและเสียชีวิตล่าสุดเปรียบเสมือนกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกองทุนเดิม ทั้งนี้ หลังจากมีการยกเลิกกองทุนดังกล่าว นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ประสบเหตุในไทยส่วนใหญ่ใช้ประกันส่วนตัว แต่ภาระค่าใช้จ่ายของชาวต่างชาติที่ไม่มีประกันหรือมีแต่ไม่เพียงพอตกอยู่ที่ผู้ประกอบการ สทท.จึงต้องการให้รัฐบาลจัดเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน เนื่องจากจะลดภาระงบประมาณแผ่นดินปีละราว 300-400 ล้านบาท พร้อมเชื่อว่าอัตราการจัดเก็บไม่กระทบความรู้สึกของนักท่องเที่ยว เพราะได้ทำการศึกษาแล้วว่าไม่กระทบการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว  

แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังชี้ว่ารัฐบาลไม่ควรชะลอการจัดเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน เพราะเป็นไปตามพระราชบัญญัตินโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. 2551 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 ซึ่งให้คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) นำเสนอให้จัดเก็บเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว จัดให้มีประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมจัดตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว 

ด้านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่าในช่วงเดือน ก.พ.-ส.ค. 2567 กระทรวงฯ จะยังไม่จัดเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน เนื่องจากไทยเพิ่งฟื้นตัวจากผลกระทบของ COVID-19 จึงต้องการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้ยกเลิก พร้อมระบุว่าร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือค่าเหยียบแผ่นดิน ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว (prachachat.net, 17 ก.พ. 2567)