ข่าวเศรษฐกิจ
หลังจากราคาน้ำมันดิบ Brent พุ่งขึ้นกว่า 8% และราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 9% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับขึ้นรายสัปดาห์ที่มากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี หลังจากอิหร่านยิงขีปนาวุธจำนวนมากโจมตีอิสราเอล ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2567 สัญญาน้ำมันดิบ Brent ได้พุ่งขึ้นทะลุบาร์เรลละ 80 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2567 หรือบวกไปแล้วราว 5% นับจากต้นปี 2567 เช่นเดียวกับสัญญาน้ำมันดิบ WTI ที่ปิดเพิ่มขึ้น 3.71% ที่บาร์เรลละ 77.14 ดอลลาร์สหรัฐ หรือบวกไปแล้วกว่า 7% นับจากต้นปี 2567 เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่มีความเสี่ยงว่าจะลุกลามบานปลาย และทำให้เกิดความกังวลว่าอิสราเอลจะตอบโต้อิหร่านด้วยการพุ่งเป้าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำมันของอิหร่าน ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยด้านสินค้าโภคภัณฑ์โลกของ Goldman Sachs ระบุว่าราคาน้ำมันอาจจะพุ่งขึ้นบาร์เรลละ 20 ดอลลาร์สหรัฐ หากอิสราเอลตอบโต้อิหร่านด้วยการโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่ม OPEC และเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญต่อตลาดน้ำมันโลก โดยอิหร่านผลิตน้ำมันวันละเกือบ 4 ล้านบาร์เรล หรือราว 4% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก (www.bangkokbiznews.com, 8 ต.ค. 2567)