ข่าวเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2567 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติการต่ออายุเงินกู้ระยะสั้นแบบ Credit Line ของ กฟผ. วงเงินปีละ 30,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย. 2567 เป็นต้นไป ภายใต้เงื่อนไขเดิมประกอบด้วยเงินกูู้เบิกเกินบัญชี ตั๋วสัญญาใช้เงิน การทำ Trust Receipt (T/R) และการทำสัญญากู้เงินเมื่อทวงถาม (Call Loan) โดยให้พิจารณาทำสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินที่เสนอต้นทุนต่ำที่สุดตามอัตราดอกเบี้ยตลาด และกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ยจากการกู้เงิน ทั้งนี้ รายงานข่าวจาก กฟผ. ระบุว่าเมื่อปลายปี 2565 กฟผ. มียอดแสดงทางบัญชี 1.1 แสนล้านบาท กำหนดแบ่งจ่ายเป็น 7 งวด ซึ่งจะสิ้นสุดงวดสุดท้ายในเดือน เม.ย. 2568 แต่มีความพยายามเรียกร้องให้ลดค่าไฟฟ้าโดยการชะลอการจ่ายหนี้ตามแผนที่กำหนดไว้ ซึ่งในทางหลักการสามารถทำได้แต่ในทางปฏิบัติจะส่งผลเสียหลายด้าน โดยเฉพาะสถานะเครดิตของ กฟผ. ที่จะลดลงและจะทำให้ต้นทุนการกู้เพื่อการลงทุนในอนาคต เช่น การขยายสายส่ง และการพัฒนาระบบการผลิต สูงขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ, 3 ต.ค. 2567)