ข่าวเศรษฐกิจ
The Business Research ระบุว่า ตลาดคาร์บอนเครดิตของโลกเติบโตจาก 3.98 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2566 เป็น 5.26 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2567 และคาดว่าจะเติบโตถึง 1.47 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2571 โดยเป็นผลจากการลงทุนด้านการเงินเพื่อสภาพอากาศ การขยายระบบซื้อขายคาร์บอน โครงการกำหนดราคาคาร์บอนทั่วโลก และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในห่วงโซ่อุปทาน ขณะเดียวกันสำนักสื่อสารและทะเบียนคาร์บอนเครดิต องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ให้ข้อมูลว่าการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 350 ล้านบาท โดยซื้อขายไปแล้วประมาณ 4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ส่วนภาพรวมสถิติตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจของไทยในปี 2567 มีมูลค่าการซื้อขาย 85.79 ล้านบาท และปริมาณซื้อขาย 686,079 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งตลาดคาร์บอนเครดิตภาคสมัครใจ ผู้ซื้อจะซื้อเพื่อกิจกรรม CSR ดังนั้น แนวโน้มการเติบโตในภาคนี้อาจไม่สูงมาก แต่เมื่อ พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีผลบังคับใช้ จะมีมาตรการบังคับในการจำกัดสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของนิติบุคคลที่ปล่อยสูง (Emission Trading Scheme : ETS) (กรุงเทพธุรกิจ, 6 ม.ค. 2568)