ข่าวเศรษฐกิจ

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) รายงานอ้างการคาดการณ์ของ Rapaport ว่าปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเพชรในปี 2566 ได้แก่ 1) อุปทานเพชรของ Alrosa จากเหมืองในรัสเซียซึ่งคิดเป็น 30% ของผลผลิตทั่วโลก ลดลงจากการถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2565 ทำให้ราคาเพชรปรับขึ้น 2) ปัญหาเงินเฟ้อสูงในสหรัฐฯ ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นและทำให้ผู้ค้าเพชรต้องรักษาระดับสินค้าคงคลังไม่ให้มากเกินไป แต่คาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 3) อุปสงค์ในจีนฟื้นตัวจากการที่จีนเปิดประเทศ 4) เพชรสังเคราะห์ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้อุปทานเพชรสังเคราะห์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและส่งผลให้ราคาเพชรสังเคราะห์ลดลง ขณะที่การที่สหรัฐฯ คว่ำบาตรเพชรจาก Alrosa ของรัสเซียเป็นตัวเร่งให้ความต้องการเพชรสังเคราะห์เติบโตมากขึ้น นอกจากนี้ เพชรสังเคราะห์ยังได้รับความนิยมมากขึ้นในตลาดเครื่องประดับแต่งงาน 5) ความต้องการพิสูจน์แหล่งกำเนิดของเพชรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากกระแสรักษ์โลก การผลิตที่โปร่งใส รวมถึงการให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาที่ไม่ผิดจริยธรรม 6) ข้อตกลงการค้าเพชรระหว่าง De Beers กับบอตสวานาที่ยังหาข้อสรุปได้ยากจะส่งผลต่ออุปทานเพชร โดยบอตสวานาเป็นแหล่งเพชรที่สำคัญที่สุดของ De Beers ทั้งปริมาณที่ขุดได้และมูลค่าทางการค้า การเปลี่ยนแปลงในข้อตกลงจึงอาจส่งผลกระทบต่อรายได้และส่วนแบ่งตลาดของ De Beers ทั้งนี้ GIT ระบุว่าปี 2566 เป็นปีที่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมเพชรต้องระแวดระวังสูงและต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ เนื่องจากการค้าเพชรในช่วงครึ่งปีแรกอาจไม่เติบโตเท่าที่ควร แต่มีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 (infocenter.git.or.th, 27 ม.ค. 2566)