ข่าวเศรษฐกิจ

ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ประกอบด้วยสมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประจำเดือน ก.ค. 2566 ยังคงกรอบประมาณการการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ปี 2566 ไว้ที่ 3-3.5% จากภาคการท่องเที่ยวดีขึ้นและเป็นเครื่องยนต์หลักตัวเดียวที่จะพยุงเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน เริ่มฟื้นตัว ทำให้คาดว่าไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 29-30 ล้านคน ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนยังถูกกดดันจากค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90.6% ของ GDP ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย อีกทั้งภาคการผลิตยังมีแนวโน้มชะลอตัวตามทิศทางเศรษฐกิจโลก 

ขณะเดียวกัน กกร. ได้ปรับลดคาดการณ์การส่งออกลงจากเดิม -1% ถึง 0% เป็น -2% ถึง 0% และปรับกรอบเงินเฟ้อจากเดิม 2.7-3.2% เป็น 2.2-2.7% แม้จะยังมีความเสี่ยงจากภัยแล้งและค่าจ้างแรงงานในระยะต่อไป แต่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะต่ำลงจากที่ประเมินไว้เดิมตามทิศทางราคาพลังงานที่ลดลง หลังจากราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ลดลงมากกว่า 30% และการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งเอราวัณในอ่าวไทยจะทยอยเพิ่มขึ้นจากวันละ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุต เป็น 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตในช่วงปลายปี 2566 (www.bangkokbiznews.com และ https://siamrath.co.th, 5 ก.ค. 2566)