ข่าวเศรษฐกิจ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า  มูลค่าส่งออกมันสำปะหลังและข้าวไทยไปจีนในปี 2566 อาจหดตัว 15.0%  และ 28.5% ตามลำดับ เนื่องจากจีนนำเข้าธัญพืชลดลงตามเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้า พร้อมคาดว่าการส่งออกมันสำปะหลังและข้าวไทยไปจีนมีแนวโน้มเผชิญความท้าทายมากขึ้นในระยะสั้น-กลางจากแผนพัฒนาการเกษตรของจีนที่ทยอยยกระดับการเพิ่มผลผลิตในประเทศ โดยเฉพาะถั่วเหลืองและข้าวโพด ขณะที่การบริโภคในจีนอาจเพิ่มขึ้นไม่มากและอาจไม่กลับไปเติบโตในระดับเดียวกับช่วงก่อน COVID-19 ระบาด โดยศูนย์ฯ คาดว่ามันสำปะหลังจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากไทยส่งออกไปจีนสูงและเป็นสินค้าทดแทนของข้าวโพดและถั่วเหลืองที่จีนเร่งผลิต โดยคาดว่าในปี 2567 มูลค่าส่งออกมันสำปะหลังไปจีนอาจหดตัว 4.5-8.6% ขณะที่ข้าวมีแนวโน้มได้รับผลกระทบในวงจำกัดกว่ามันสำปะหลัง เนื่องจากไทยส่งออกข้าวไปจีนไม่มากนัก ซึ่งผลกระทบจะเกิดจากแนวโน้ม El Nino ที่รุนแรงขึ้นเป็นสำคัญ โดยคาดว่า ในปี 2567 มูลค่าส่งออกข้าวไทยไปจีนอาจหดตัว 4.0-7.6%  

พร้อมกันนี้ ศูนย์ฯ เสนอแนะให้ผู้ส่งออกหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพแทนจีน เช่น สหรัฐฯ อินเดีย ซาอุดีอาระเบีย และญี่ปุ่น ขณะที่ภาคการผลิตควรมุ่งผลิตสินค้าเกษตรที่เน้นคุณภาพ หรือสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นอย่างเทรนด์สุขภาพที่เติบโตดี เช่น ข้าวออร์แกนิก และแป้งปลอดกลูเตน (infoquest.co.th, 30 ต.ค. 2566)