ข่าวเศรษฐกิจ

กรมประมงเตือนผู้ส่งออกอาหารทะเลรับมือสหรัฐฯ ใช้กฎหมาย MMPA ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2569

กรมประมงเปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ม.ค. 2569 องค์การสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐ (National Oceanic and Atmospheric Administration : NOAA) จะบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำ เพื่อคุ้มครองสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม (Marine Mammal Protection Act : MMPA) โดยสหรัฐฯ ได้ประกาศผลการพิจารณาความเทียบเคียงตามกฎหมาย MMPA ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2568 ซึ่งไทยเป็นหนึ่งใน 89 ประเทศ จากคู่ค้า 135 ประเทศทั่วโลกที่ผ่านการประเมิน โดยรายการสัตว์น้ำที่ได้จากเครื่องมือประมงของไทยผ่านเกณฑ์การพิจารณาทั้งหมด อีกทั้งการประมงของไทยที่อยู่ในบัญชีรายชื่อการประมงต่างประเทศ (List of Foreign Fisheries : LOFF) ก็ผ่านเกณฑ์การเทียบเคียงกับ MMPA ของสหรัฐฯ จึงสามารถส่งออกไปยังสหรัฐฯ ได้ทุกรายการ 

ทั้งนี้ เพื่อให้การส่งออกสินค้าสัตว์น้ำของไทยไปสหรัฐฯ เป็นไปอย่างราบรื่นต่อเนื่อง ไม่ถูกจำกัด หรือหยุดชะงัก และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ผู้ประกอบการจะต้องจัดทำหลักฐานรับรองแหล่งที่มาของสัตว์น้ำที่นำมาผลิตเพื่อส่งออกไปยังสหรัฐฯ โดยมีการอ้างอิงหมายเลขจากเอกสารต่อไปนี้ในหนังสือรับรองการแจ้งแหล่งที่มาของสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำในการส่งออก (Self Certificate) 

1) สัตว์น้ำที่มาจากการนำเข้า : ต้องมีการอ้างอิงหมายเลขหนังสือกำกับการจำหน่ายสัตว์น้ำนำเข้า (Imported Aquatic Animal Movement Document : IMD)  

2) สัตว์น้ำที่มาจากการทำประมงโดยเรือประมงไทย : ต้องมีการอ้างอิงหมายเลขหนังสือกำกับการซื้อขายสินค้าสัตว์น้ำ (Marine Catch Purchasing Document : MCPD) โดยสามารถขอหนังสือรับรองฯ จากกรมประมง ผ่านระบบการตรวจสอบย้อนกลับสำหรับสัตว์น้ำที่จับโดยเรือประมงไทย (Thai Flagged Catch Certification System : TFCC) 

3) สัตว์น้ำที่มาจากการเพาะเลี้ยงในประเทศ : ต้องมีการอ้างอิงหมายเลขหนังสือกำกับการจำหน่ายสัตว์น้ำ (Aquatic Animal Movement Document : MD) หนังสือกำกับการจำหน่ายลูกพันธุ์สัตว์น้ำ (Aquatic Animal Fry Movement Document : FMD) รวมถึงหนังสือกำกับการซื้อสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่ได้จากการเพาะเลี้ยง (Aquacultural Product Purchasing Document : APPD) สำหรับกุ้งทะเล และหนังสือกำกับการซื้อขายลูกพันธุ์สัตว์น้ำที่ได้จากการเพาะเลี้ยง (Aquacultural Fry Purchasing Document : AFPD) สำหรับสัตว์น้ำอื่นๆ ที่ไม่ใช่กุ้งทะเล (กรุงเทพธุรกิจ, 12 ธ.ค. 2568) 

Related
more icon
Most Viewed
more icon
  • ราคาไม้สับเพิ่มขึ้นแตะระดับตันละ 1,300-1,350 บาท สูงสุดในรอบ 10 ปี

    สมาคมการค้าชีวมวลไทยเปิดเผยว่า ปัจจุบันผลผลิตพืชเกษตรหลายประเภท อาทิ อ้อย ลดลงมาก ปริมาณวัสดุเหลือใช้ที่นำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลจึงลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้ความต้องการไม้สับ (Wood Chips) ที่ผลิตจากไม้ยางพารา ไม้ยูคาลิปต...

    calendar icon27.01.2021
  • เผยรายชื่อโรงพยาบาลเอกชนที่สั่งซื้อวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากบริษัทต่างชาติ

    แหล่งข่าวจากวงการโรงพยาบาลเอกชนเปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งต้องการสั่งซื้อวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากบริษัทผู้พัฒนาต่างชาติ (ที่นอกเหนือจากของ AstraZeneca อาทิ Moderna) เพื่อหวังจะนำวัคซีนดังกล่าวมาให้บริการแก่...

    calendar icon08.01.2021
  • เอกชนรุกลงทุนโรงพยาบาลใหม่

    สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งทยอยยื่นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อขออนุญาตดำเนินโครงการ ทั้งโครงการใหม่และส่วนต่อขยาย ซึ่ง ...

    calendar icon08.01.2018
link อื่นๆ
  • Relate Preview
  • Relate Preview
Financial Products
  • Finance Preview
  • Finance Preview
  • Finance Preview