ข่าวเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำต่างเร่งพัฒนาความเชี่ยวชาญด้านไมโครชิปแทนการพึ่งพาซัพพลายเออร์ ขณะที่ความเชี่ยวชาญด้านเครื่องกลกำลังกลายเป็นรองความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลในอุตสาหกรรม EV ทั้งนี้ ปัจจัยท้าทายที่สำคัญของอุตสาหกรรม EV ในปี 2566 ได้แก่ การแย่งชิงชิป หลังจากเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง AI, Cloud Computing, Internet of Things (IoTs), 5G และ 6G เปิดตัว ซึ่งจะทำให้มีความต้องการชิปเพิ่มขึ้นอีกมาก
ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ EV ก็เผชิญการแข่งขันสูง โดยผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับผู้ผลิตเซลล์แบตเตอรี่เพื่อให้มั่นใจว่ามีเซลล์แบตเตอรี่เพียงพอต่อความต้องการและมีคุณภาพ ทั้งนี้ S&P Global Commodity Insights คาดว่าความต้องการเซลล์แบตเตอรี่จากกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 535 GWh ในปี 2565 เป็น 2,737 GWh ในปี 2571 ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานผลิตเซลล์แบตเตอรี่ทั้งสิ้น 188 โรงงาน และในจำนวนนี้มี 131 โรงงานอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อีกทั้งมี 107 โรงงานอยู่ในจีน
นอกจากนี้ อุตสาหกรรม EV มีแนวโน้มเผชิญปัญหาภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม รวมถึงไฟไหม้ ขณะเดียวกันยังมีแนวโน้มเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับ ตลอดจนความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ทำให้การผลิต EV อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ (กรุงเทพธุรกิจ, 23 พ.ค. 2566)