ข่าวเศรษฐกิจ
บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้เข้าไปดำเนินธุรกิจในเมียนมา 2 ด้านหลัก คือ
1) ธุรกิจสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลียมของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ซึ่งยังคงจัดส่งก๊าซธรรมชาติได้ตามปกติเพื่อความมั่นคงของประเทศ ปัจจุบันไทยนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากเมียนมาวันละ 965 ล้านลูกบาศก์ฟุต (ลบ.ฟุต) โดยรับจากแหล่งยาดานาวันละ 650 ล้าน ลบ.ฟุต คิดเป็น 10% ของปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในไทย ซึ่งนำมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ใช้ในอุตสาหกรรมและภาคขนส่งในรูปของ NGV เช่นเดียวกับก๊าซฯ จากอ่าวไทย และ LNG
2) ธุรกิจน้ำมันของบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ซึ่งปัจจุบันเปิดสาขาร้านกาแฟอเมซอน รวมถึงสร้างคลังน้ำมันและคลังก๊าซ LPG ใหญ่ที่สุดของเมียนมา ความจุน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล และมีความจุ LPG 4,500 เมตริกตัน ปัจจุบันชะลอการลงทุนโดยยังไม่มีการลงทุนเพิ่ม เพื่อรอประเมินสถานการณ์
ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าหากไม่มีการรัฐประหารและสงครามภายใน เมียนมาถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพการลงทุน เพราะเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่ใช้น้ำมันสูง อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นเมียนมายังเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับนักลงทุน (www.bangkokbiznews.com, 6 ธ.ค. 2566)