ข่าวเศรษฐกิจ
Toyota ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่าไม่ว่าจะมีการพัฒนา BEV ได้มากเท่าใดก็ตาม EV จะครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ได้อย่างมากเพียง 30% เท่านั้น โดยที่เหลืออีก 70% จะเป็น HEV, PHEV, ยานยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle : FCEV) และรถยนต์สันดาปภายใน เนื่องจากปัจจุบันยังมีประชาชนนับพันล้านคนที่ไม่สามารถเข้าถึงไฟฟ้า การจำกัดทางเลือกและความสามารถในการเดินทางของประชาชนกลุ่มนี้ด้วยการผลิตรถยนต์ราคาสูงจึงไม่ใช่คำตอบ อีกทั้งผู้ใช้งานควรเป็นผู้ตัดสินใจใช้รถยนต์ ไม่ใช่กฎระเบียบหรือรัฐบาล ทั้งนี้ Toyota ปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเปลี่ยนผ่านสู่ EV ที่ล่าช้า โดยระบุว่าบริษัทฯ ลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานทางเลือกต่างๆ ที่หลากหลาย อาทิ การเป็นผู้นำรถยนต์ไฮบริดและเทคโนโลยีไฮบริด และแนวทางแบบองค์รวม (มีทางเลือก EV ที่หลากหลาย ไม่ใช่เพียง BEV) เป็นแนวทางที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจ ลูกค้า และสิ่งแวดล้อม ขณะที่ในช่วงต้นเดือน ม.ค. 2567 Toyota ประกาศจะริเริ่มการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปรุ่นใหม่ อนึ่ง Toyota ระบุในปี 2566 ว่าตั้งเป้าจำหน่าย EV ปีละ 1.5 ล้านคันภายในปี 2569 และเพิ่มเป็น 3.5 ล้านคันภายในปี 2573 (electrek.co, 23 ม.ค. 2567, Bloomberg 23 ม.ค. 2567 และ bangkokbiznews.com, 24 ม.ค. 2567)