ข่าวเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2568 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำประกาศให้ปรับขึ้นอัตราภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ เป็น 25% จากอัตราเดิมที่ระดับ 10% และยกเลิกข้อยกเว้นรายประเทศและข้อตกลงตามโควตา รวมทั้งยกเลิกการยกเว้นภาษีเฉพาะผลิตภัณฑ์ (Product-specific Tariff) นับแสนรายการสำหรับโลหะทั้งสองชนิด โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค. 2568 เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ ที่กำลังประสบปัญหา คำสั่งดังกล่าวจะทำให้การนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดา บราซิล เม็กซิโก เกาหลีใต้ และประเทศอื่นๆ ที่สหรัฐฯ เคยนำเข้าโดยไม่เสียภาษีภายใต้ข้อยกเว้นพิเศษ ต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตรา 25% โดยไม่มีข้อยกเว้น นอกจากนี้ ยังจะกำหนดมาตรฐานอเมริกาเหนือใหม่ โดยกำหนดให้การนำเข้าเหล็กต้อง "หลอมและเท" (Melted and Poured) และอะลูมิเนียมต้อง "หลอมและหล่อ" (Smelted and Cast) ภายในภูมิภาค เพื่อควบคุมการนำเข้าโลหะจากจีนและรัสเซียที่ผ่านกระบวนการขั้นต่ำ อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวว่าจะให้การพิจารณาเป็นพิเศษต่อคำขอยกเว้นภาษีเหล็กของออสเตรเลีย (อินโฟเควสท์, 11 ก.พ. 2568)