ส่องเทรนด์โลก

Digital Nomads...เทรนด์ใหม่เที่ยวไป ทำงานไป

การแพร่ระบาดของ COVID-19 ก่อให้เกิดมาตรการมากมายที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของประชาชนทั่วโลก ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่อาจจะถูกใจหลาย ๆ คนคือ การทำงานที่บ้าน แม้ต่อมาทั่วโลกเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 แล้ว แต่คนวัยทำงานยังต้องการทำงานที่บ้านหรือทำงานจากทางไกล เห็นได้จากผลสำรวจปี 2564 ของ KPMG บริษัทชั้นนำของโลกที่พบว่า 52% ของบริษัททั่วโลก อยู่ระหว่างพิจารณาออกนโยบายทำงานจากทางไกล ขณะที่ 37% ใช้นโยบายดังกล่าวแล้ว โดยมีปัจจัยหลักมาจากการร้องขอของพนักงาน สอดคล้องกับผลสำรวจคนวัยทำงานทั่วโลก 12,500 คนของ World Economic Forum เมื่อปี 2564 ที่พบว่า 66% ต้องการทำงานแบบยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อการระบาดของ COVID-19 สิ้นสุดลง และ 30% จะเปลี่ยนงานหากต้องกลับไปทำงานที่ออฟฟิศอีกครั้ง ประกอบกับทั่วโลกเริ่มทยอยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวและลดมาตรการเข้มงวดด้านการเดินทาง จึงทำให้คนวัยทำงานที่ต้องการเที่ยวไปทำงานไปมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีผลให้นักท่องเที่ยว “Digital Nomads” หรือนักท่องเที่ยวที่ทำงานทางไกลควบคู่ไปกับการท่องเที่ยว มีบทบาทมากขึ้นต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก “ส่องเทรนด์โลก” ฉบับนี้ จะชวนท่านมาทำความรู้จักกับ Digital Nomads เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับธุรกิจของท่านให้สอดรับกับเทรนด์ใหม่ดังกล่าว ดังนี้

ทำความรู้จักกับ Digital Nomads

>>>เที่ยวไปรอบโลก...พร้อมทำงานผ่านอินเทอร์เน็ต
Digital Nomads ถูกพูดถึงครั้งแรกในหนังสือ “Digital Nomad” เมื่อปี 2540 โดยนิยามกลุ่มคนที่ทำงานทางไกลจากที่ใดก็ได้ในโลกผ่านอินเทอร์เน็ต ใกล้เคียงกับที่ Macmillan Dictionary ให้คำแปลว่า คนที่ใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์พกพาและเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อทำงานทางไกลจากที่ใดก็ได้ ซึ่งสอดคล้องกับคำแปลภาษาอังกฤษแบบตรงตัว โดย Nomad แปลว่า คนที่ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เมื่อรวมกับ Digital ที่หมายถึงเทคโนโลยีดิจิทัล Digital Nomads จึงหมายถึงคนที่เดินทางท่องเที่ยวพร้อมกับทำงานทางไกลโดยใช้อินเทอร์เน็ตนั่นเอง

>>>Digital Nomads เป็นใครบ้าง?
รายงาน “Work and Wander : Meet Today’s Digital Nomads” ปี 2564 ของ Adventure Travel Trade Association (ATTA) เครือข่ายด้านการท่องเที่ยวแบบผจญภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกพบว่า 36% ของ Digital Nomads ทำงานอิสระหรือ “Freelance” ให้กับบริษัทหลายแห่ง และ 33% มีกิจการเป็นของตนเอง ขณะเดียวกัน ข้อมูลจาก statista.org ชี้ว่า 60% ของ Digital Nomads ทั่วโลกมาจากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร โดยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม Millennials (อายุ 27-41 ปี) และมักพักอาศัยในที่พัก 1 แห่งเป็นเวลาน้อยกว่า 7 วัน

                     สัดส่วนประเทศต้นทางของ Digital Nomads

                  ที่มา : statista.org (มี.ค. 2565)

>>>Digital Nomads มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในปี 2564 The Instant Group บริษัทให้บริการด้านการทำงานรูปแบบใหม่ที่เน้นการทำงานแบบยืดหยุ่นของสหราชอาณาจักร ประเมินว่า มี Digital Nomads ทั่วโลก35 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านคนในปี 2578 หรือ 1 ใน 3 ของประชากรวัยทำงานทั่วโลก

Digital Nomads เลือกจุดหมายปลายทางอย่างไร?

>>>Digital Nomads เลือกจุดหมายปลายทางจากความเสถียรของอินเทอร์เน็ต
สภาพอากาศ และค่าครองชีพ
โดยผลสำรวจของ ATTA ปี 2564 พบว่า Digital Nomads เลือกจุดหมายปลายทางจาก 3 ปัจจัยดังกล่าวตามลำดับ สอดคล้องกับ The Instant Group ที่จัดอันดับประเทศที่พร้อมรับ Digital Nomads ปี 2565 จากตัวชี้วัด ได้แก่ การมี Working Space ที่เข้าถึงได้สะดวก สภาพอากาศ ความเร็วของอินเทอร์เน็ต การเดินทางและการขนส่ง รวมถึงทัศนียภาพ โดยกรุงเทพฯ เป็นจุดหมายที่ Digital Nomads นิยมเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากกรุงลิสบอน โปรตุเกส เนื่องจากไทยมีจุดเด่นจากทั้งด้านอาหาร มีจุดกระจายสัญญาณ Wi-Fi ความเร็วสูงมากกว่า 15,000 แห่ง มีขนส่งมวลชนให้เลือกหลากหลาย และค่าที่พักมีราคาถูก โดยที่พักบนแพลตฟอร์ม Airbnb ในไทยมีราคาเฉลี่ยเพียงคืนละ 1,174 บาท

ที่มา : The Instant Group

ทั่วโลกจับเทรนด์ Digital Nomads…รุกดึงดูดเข้าประเทศฟื้นการท่องเที่ยว

ภาครัฐและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในหลายประเทศทั่วโลกใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ดึงดูด Digital Nomads เพื่อฟื้นรายได้จากการท่องเที่ยว ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็มีเป้าหมายเจาะตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ ซึ่งรวมถึง Digital Nomads เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยปี 2566 ด้วยเช่นกัน สำหรับกลยุทธ์ดึงดูด Digital Nomads ที่น่าสนใจ อาทิ

>>>การออกวีซ่าระยะยาว นับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยปัจจุบันกว่า 46 ประเทศ ออกวีซ่าระยะยาวให้แก่ Digital Nomads ในช่วงที่ทั่วโลกทยอยผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดด้านการเดินทาง โดยในอาเซียนมีเพียงอินโดนีเซียและไทยที่ให้วีซ่าระยาวแก่ Digital Nomads ซึ่งไทยให้ Long-Term Resident Visa หรือ LTR Visa 10 ปี แก่ชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งรวมถึง Digital Nomads ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565

>>>ออกแคมเปญเชิญชวน อาทิ โปรตุเกสออกแคมเปญ “It Works for You” ซึ่งประชาสัมพันธ์จุดเด่นเมือง Cascais ว่า มีทัศนียภาพสวยงาม และมีความพร้อมด้าน Working Space เพื่อรองรับ Digital Nomads รวมถึงเป็นเมืองในยุโรปที่มีแสงแดดมากถึง 300 วันใน 1 ปี และโครเอเชียออกแคมเปญ “Croatia, Your New Office” ที่ชูจุดเด่นการเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงประเทศต่าง ๆ ในยุโรป การมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เร็ว ผู้คนเป็นมิตร ตลอดจนมีการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพสูง

>>>ปรับสถานที่พักให้รองรับการทำงานทางไกล ซึ่งโรงแรม Zoku ในกรุงอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ นับเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ เนื่องจากออกแบบเพื่อรองรับ Digital Nomads เป็นการเฉพาะ โดยมีการตกแต่งภายในสไตล์ Scandinavia ที่ทันสมัย เน้นการนำเสนอบริการให้ผู้เข้าพักรู้สึกเหมือนเป็นทั้งบ้านและออฟฟิศ พร้อมกับการให้บริการแบบโรงแรม สำหรับบริการที่น่าสนใจ ได้แก่ มี Workshop Room และอุปกรณ์สำนักงานครบครัน มีพื้นที่สำหรับทำงานทั้งแบบมีความเป็นส่วนตัวสูง และแบบที่ช่วยให้ Digital Nomads ได้ปฏิสัมพันธ์กัน เพื่อให้เกิดความรู้สึกได้เป็นส่วนหนึ่งของ Community ในโรงแรม ซึ่งช่วยแก้ Pain Point ที่ Digital Nomads จำนวนมากรู้สึกโดดเดี่ยว อาทิ การให้บริการโต๊ะทำงานและโต๊ะรับประทานอาหารส่วนกลางแบบยาว นอกจากนี้ ภายในห้องพักยังมีพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับเก็บเอกสารและอุปกรณ์ และมีห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ทำครัวครบครันสำหรับการพักระยะยาว รวมถึงมีพื้นที่สีเขียวให้ผู้พักอาศัยได้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติอีกด้วย ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผู้เข้าพักโรงแรม Zoku มีระยะเวลาเข้าพักตั้งแต่ 1 คืน ถึง 3 เดือน

       ตัวอย่างการปรับปรุงสถานที่เพื่อรองรับ Digital Nomads

การที่เทรนด์ Digital Nomads มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว ประกอบกับภาครัฐของไทยมีนโยบายดึงดูดนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้คาดว่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยที่ปรับตัวรับกระแสดังกล่าวได้ทัน ขณะเดียวกันการที่หลายประเทศออกนโยบายดึงดูด Digital Nomads และภาคเอกชนในหลายประเทศก็เร่งปรับตัวรับกระแสดังกล่าว คาดว่าจะสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยในการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการปรับตัวรับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว อาทิ ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยเช่นกัน

ที่มาของรูปภาพ : Wichai.wi, Chanut-is-Industries, mikan933, juicy_fish from www.flaticon.com

Disclaimer : ข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏ เป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น โดย EXIM BANK จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าโดยทางใด

 

เอกสาร
ที่เกี่ยวข้อง
Most Viewed
more icon
  • Gen Z กับทิศทางตลาดอาหารโลก

    กลุ่ม Gen Z (Generation Z) คือ กลุ่มคนที่เกิดในช่วงหลังปี 2543 ซึ่งปัจจุบันถือเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในวัยเด็กและวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 ปี Gen Z เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่หลายธุรกิจเริ่มให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นกลุ่มประ...

    calendar icon24.04.2019
  • ทำความรู้จัก Telemedicine... เทรนด์ธุรกิจเติบโตดีหลัง COVID-19

    การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) มีส่วนกระตุ้นให้ประชาชนเริ่มทดลองใช้บริการการแพทย์ทางไกลหรือ Telemedicine มากขึ้น เพราะบริการดังกล่าวทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยได้แม้อยู่คนละที่กับผู้ป่วย ...

    calendar icon31.08.2020
  • เกาะติดกระแสการค้าสินค้าออนไลน์ในกัมพูชา

    กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่เศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน แม้การค้าส่วนใหญ่ยังอยู่ในรูปแบบดั้งเดิม แต่การค้าในรูปแบบของ e-Commerce ก็มีการเติบโตโดดเด่นและเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อ...

    calendar icon31.10.2018
link อื่นๆ
  • Relate Preview
  • Relate Preview
Financial Products
  • Finance Preview
  • Finance Preview
  • Finance Preview