ข่าวเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 ชาวบาห์เรนจำนวนมากได้ออกมาเดินขบวนประท้วงขับไล่รัฐบาลเป็นวันที่ 2 เนื่องจากไม่พอใจการบริหารประเทศของรัฐบาลที่ขาดความโปร่งใส ประกอบกับการที่กลุ่มผู้นำประเทศของบาห์เรนนับถือศาสนาอิสลามนิกาย Sunni ขณะที่ชาวบาห์เรนกว่า 60% ของประชากรทั้งประเทศนับถือศาสนาอิสลามนิกาย Shiite เป็นเหตุให้ชาวบาห์เรนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานของรัฐ รวมถึงยังขาดโอกาสในการเข้าทำงาน ขณะที่การชุมนุมประท้วงในเยเมนเพื่อขับไล่ประธานาธิบดี Ali Abdullah และคณะรัฐบาลเยเมนได้ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 5 เนื่องจากไม่พอใจการบริหารประเทศของรัฐบาลเยเมนที่ยังขาดประสิทธิภาพ อีกทั้งการคอร์รัปชันของรัฐบาลเยเมนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ชาวเยเมนราว 40% ของประชากรทั้งประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่ โดยมีระดับรายได้ต่ำกว่า 2 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุความไม่สงบในอิหร่านจากการที่ชาวอิหร่านจำนวนมากได้ออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลอิหร่าน เนื่องจากไม่พอใจการบริหารประเทศที่ขาดความโปร่งใส ทั้งนี้ การชุมนุมประท้วงดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงในอียิปต์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จนนำไปสู่การโค่นล้มอำนาจของประธานาธิบดี Hosni Mubarak ซึ่งปกครองประเทศมายาวนานกว่า 30 ปี ได้สำเร็จ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่าเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลางจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตของโลกและการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก และมีปริมาณน้ำมันดิบสำรองมากถึง 50% ของปริมาณน้ำมันดิบทั้งโลก (Bloomberg, 15 ก.พ. 2554)