ข่าวเศรษฐกิจ

บริษัท ซีสแปน (SSW) ซึ่งเป็นผู้ส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ในช่วงที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวแรงครั้งก่อนหน้านี้ ข้อมูลจากการเดินเรือสินค้าส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าราว 6 เดือน สำหรับครั้งนี้ เมื่อมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนของสหรัฐฯ มีผลในเดือนกรกฎาคม 2561 ก็มีสัญญาณบางอย่างแสดงให้เห็น กล่าวคือ ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน 2561 (ช่วงก่อนที่มาตรการจะมีผลบังคับใช้) มีการนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มขึ้นมาก โดยจำนวนเรือคอนเทนเนอร์บรรทุกสินค้าจากจีนมายังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเมื่อพิจารณาข้อมูลการส่งสินค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์ทางเรือระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจากฐานข้อมูลการค้าทางเรือ Seabury Global Ocean Trade Database โดยเจาะสินค้าเป็นรายตัว พบว่าการนำเข้าสินค้าจะสูงขึ้นมากหลังประกาศว่าจะมีการขึ้นภาษี ก่อนจะลดลงอย่างมากเมื่อมาตรการภาษีมีผลบังคับใช้จริง ยกตัวอย่างเช่น เหล็กกล้าและอะลูมิเนียม หลังสหรัฐฯ ประกาศจะขึ้นภาษีเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2561 การนำเข้าจากจีนก็พุ่งขึ้น 21% แต่หลังจากมาตรการมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561 การนำเข้าก็ลดลง 53% ส่วนสินค้านำเข้าจากจีนชุดแรกมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่สหรัฐฯ ประกาศมาตรการในวันที่ 3 เมษายน 2561 มูลค่านำเข้าสินค้ากลุ่มนี้ก็พุ่งขึ้น 10% แต่หลังมาตรการมีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 มูลค่านำเข้าก็ลดลง 21% ส่วนการเก็บภาษีนำเข้าจากจีนชุดที่ 2 ที่มีมูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2561 และชุดที่ 3 อีก 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 กันยายน 2561 คาดว่าจะเห็นผลกระทบต่อการนำเข้าอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2561 และธันวาคม 2561 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลกระทบจริงสำหรับปี 2562 จะเห็นชัดหลังมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 25% มีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2562 (ฐานเศรษฐกิจ, 1-3 พ.ย. 2561)