ข่าวเศรษฐกิจ

สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ อยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากกรณี EU เตรียมระงับสิทธิประโยชน์ทางการค้าที่ให้แก่กัมพูชา และเมียนมา เนื่องจากทั้งสองประเทศมีปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งการระงับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวรวมถึงการเพิกถอนสิทธิ์ภายใต้ EBA โดยจะมุ่งเป้าไปที่กัมพูชาก่อนเป็นประเทศแรก ทั้งนี้ การระงับสิทธิ์ดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการไทยมีต้นทุนสินค้าส่งออกที่สูงขึ้น ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลในเบื้องต้นพบว่ามีผู้ประกอบการเครื่องนุ่งห่มไทยไปลงทุนในกัมพูชา 6 ราย โดยมีผู้ประกอบการ 3 ราย ที่ผลิตเสื้อผ้ากีฬาส่งออกไป EU คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ขณะที่มีผู้ประกอบการไปลงทุนในเมียนมา 5 ราย เป็นโรงงานสิ่งทอ 2 ราย และเครื่องนุ่งห่ม 3 ราย โดยกลุ่มสิ่งทอไม่ได้ส่งออกไป EU จึงไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนเครื่องนุ่งห่มที่มีการส่งออกไป EU คือ เสื้อกีฬา คาดว่าจะได้รับผลกระทบ โดยสมาคมฯ มีความเห็นว่าผู้ประกอบการไทยอาจจะต้องย้ายคำสั่งซื้อไปยังฐานการผลิตที่ตนมีโรงงานอยู่ในประเทศใกล้เคียง เช่น สปป.ลาว และเวียดนาม เพื่อให้ต้นทุนในการส่งออกไม่สูงเกินไป อย่างไรก็ตาม ไนซ์กรุ๊ป ผู้ผลิตและส่งออกเสื้อผ้ากีฬารายใหญ่ของไทยในกัมพูชา เปิดเผยว่า ปัจจุบันกัมพูชาได้สิทธิ์ภายใต้ EBA เป็นระยะเวลา 10 ปี จนถึงปี 2566 และเห็นว่า EU ไม่น่าจะมีการสิทธิ์กลางโครงการ หากพิจารณาตัดสิทธิ์ควรจะเป็นหลังสิ้นสุดโครงการนี้ไปแล้ว ล่าสุด กลุ่มฯ ยังคงเดินหน้าขยายการผลิตในกัมพูชาเพิ่มขึ้นเป็น 23-24 ล้านตัว ภายในปี 2564-2565 ตามแผนที่วางไว้แล้วล่วงหน้า 4-5 ปี หากจะพิจารณาทบทวนแผนการลงทุนคงจะต้องรออีก 2-3 ปีถัดจากนี้ (ประชาชาติธุรกิจ, 11-14 ต.ค. 2561)