ข่าวเศรษฐกิจ

สหรัฐฯ ต่ออายุ GSP ไทยถึงปี 2563

กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายการต่ออายุโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (Generalized System of Preferences : GSP) และประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามเห็นชอบร่างกฎหมายแล้วในวันที่ 23 มีนาคม 2561 โดยสินค้าไทยจะได้สิทธิ์ GSP ถึงปี 2563 และจะมีการเพิ่มเติมเกณฑ์การพิจารณารายการสินค้าที่จะขอผ่อนผันให้สหรัฐฯ คงสิทธิ์ GSP กรณีมีการส่งสินค้าเข้าสหรัฐฯ เกินเพดานที่กำหนด แต่ไม่มีการผลิตในสหรัฐฯ ติดต่อกันเป็นระยะ 3 ปี นับจากปีที่พิจารณาทบทวน สินค้าดังกล่าวจะได้รับการผ่อนผันให้สามารถใช้สิทธิ์ได้ต่อไป นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังได้เลื่อนกำหนดเวลาตัดสิทธิ์ GSP สินค้าที่ถูกระงับสิทธิ์กรณีนำเข้าสหรัฐฯ เกินเพดาน ในการพิจารณาทบทวนประจำปี จากเดิมวันที่ 1 กรกฎาคม เป็นวันที่ 1 พฤศจิกายน ของปีถัดไป ซึ่งการยืดเวลาตัดหรือระงับสิทธิ์ GSP จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีเวลาในการวางแผนการส่งออก-นำเข้าได้มากขึ้น โดยสหรัฐฯ กำหนดเพดานการนำเข้าไว้เบื้องต้น ดังนี้ 1) มูลค่านำเข้าในปี 2561 กำหนดที่ 185 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2) มีส่วนแบ่งตลาดนำเข้าในสหรัฐฯ ตั้งแต่ 50% ทั้งนี้ ปัจจุบันสหรัฐฯ ให้สิทธิ์ GSP สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม 3,400 รายการ โดยสินค้าที่ได้รับสิทธิ์ GSP จะได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ เหลือ 0% ซึ่งจากสถิติการส่งออกสินค้าของไทยไปยังสหรัฐฯ พบว่ามีการขอใช้สิทธิ์ GSP เพียง 1,385 รายการ โดยในปี 2560 สินค้าไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ มีการขอใช้สิทธิ์ GSP คิดเป็น 70% ของมูลค่าส่งออกเฉพาะสินค้าที่ได้รับสิทธิ์ GSP และกลุ่มสินค้าที่ใช้สิทธิ์ GSP สูง ได้แก่ เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องจักรไฟฟ้า ยานยนต์และอุปกรณ์ ยางและผลิตภัณฑ์ พลาสติก อาหารปรุงแต่ง และเครื่องดื่ม เป็นต้น เนื่องจากกลุ่มสินค้าเหล่านี้มีอัตราภาษีนำเข้าปกติระหว่าง 1-10% สำหรับภาพรวมของสินค้าที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าส่งออกสูง 20 รายการแรกของปี 2560 พบมีสินค้า 14 รายการ ภาษีนำเข้าปกติเป็น 0% จึงไม่จูงใจให้ใช้สิทธิ์ GSP เช่น หน่วยเก็บเครื่องประมวลข้อมูลอัตโนมัติ เครื่องส่งสัญญาณเครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องพิมพ์ กล้องถ่ายโทรทัศน์ เป็นต้น ขณะที่รายการสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าสูงบางรายการเป็นสินค้าที่ไทยถูกระงับสิทธิ์ GSP แต่ยังสามารถแข่งขันได้ในตลาดสหรัฐฯ ได้แก่ ยางรถยนต์นั่ง ยางรถบรรทุก เครื่องประดับเงิน เครื่องประดับทอง มอนิเตอร์และเครื่องฉาย เป็นต้น (กรุงเทพธุรกิจ, 30 มี.ค. 2561)
Related
more icon
Most Viewed
more icon
  • ราคาไม้สับเพิ่มขึ้นแตะระดับตันละ 1,300-1,350 บาท สูงสุดในรอบ 10 ปี

    สมาคมการค้าชีวมวลไทยเปิดเผยว่า ปัจจุบันผลผลิตพืชเกษตรหลายประเภท อาทิ อ้อย ลดลงมาก ปริมาณวัสดุเหลือใช้ที่นำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลจึงลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้ความต้องการไม้สับ (Wood Chips) ที่ผลิตจากไม้ยางพารา ไม้ยูคาลิปต...

    calendar icon27.01.2021
  • เผยรายชื่อโรงพยาบาลเอกชนที่สั่งซื้อวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากบริษัทต่างชาติ

    แหล่งข่าวจากวงการโรงพยาบาลเอกชนเปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งต้องการสั่งซื้อวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากบริษัทผู้พัฒนาต่างชาติ (ที่นอกเหนือจากของ AstraZeneca อาทิ Moderna) เพื่อหวังจะนำวัคซีนดังกล่าวมาให้บริการแก่...

    calendar icon08.01.2021
  • เอกชนรุกลงทุนโรงพยาบาลใหม่

    สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งทยอยยื่นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อขออนุญาตดำเนินโครงการ ทั้งโครงการใหม่และส่วนต่อขยาย ซึ่ง ...

    calendar icon08.01.2018
link อื่นๆ
  • Relate Preview
  • Relate Preview
Financial Products
  • Finance Preview
  • Finance Preview
  • Finance Preview