ข่าวเศรษฐกิจ

กลุ่มทุนใหญ่ชิงเค้กธุรกิจยา 1.6 แสนล้านบาท

ตลาดยาในประเทศไทยเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดรวม 1.6 แสนล้านบาท โดย 70% เป็นการนำเข้ายาจากต่างประเทศ ซึ่งกลายเป็นเค้กก้อนใหญ่ที่กลุ่มทุนไทยต้องการเข้าไปสร้างโอกาสทางธุรกิจรับเทรนด์สังคมผู้สูงอายุ ขณะที่รัฐบาลก็ให้การส่งเสริมการลงทุนในฐานะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มทุนไทยที่สนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจยา ได้แก่ 1) เครือโรงพยาบาลกรุงเทพฯ (บีดีเอ็มเอส) เบอร์ 1 ของธุรกิจโรงพยาบาลในไทยและอันดับต้นๆ ในเอเชีย ลงทุนสร้างโรงงานยาแห่งที่ 2 ในนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร จ.สมุทรสาคร ในช่วงปลายปี 2559 ด้วยงบลงทุนราว 920 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 16 เดือน คาดว่าโรงงานแห่งใหม่นี้จะผลักดันการเติบโตของสหแพทย์เภสัชปีละกว่า 30% และจะคุ้มทุนภายในระยะเวลา 7 ปี นอกจากนี้ ในอนาคตยังมีแผนเพิ่มไลน์ผลิตยาชนิดซอฟต์เจล รวมถึงอยู่ระหว่างศึกษาแผนการผลิตผลิตภัณฑ์ต้นน้ำ โดยเฉพาะไบโอติค หรือชีววัตถุ เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ อีกทั้งยังมีแผนที่จะส่งออกยาไปยังอาเซียน และยุโรป โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีก 2-3 ปีจากนี้ 2) บมจ. ปตท. เบอร์ 1 ในธุรกิจพลังงานครบวงจรของไทย ล่าสุดในเดือนมกราคม 2561 ปตท. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง “โครงการศึกษาความเป็นไปได้ของการสร้างโรงงานผลิตยารักษาโรคมะเร็ง และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการผลิตวัตถุดิบสารออกฤทธิ์ทางยา (Active Pharmaceutical Ingredient :API) กับองค์การเภสัชกรรม เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางยา และยกระดับอุตสาหกรรมยาของไทยให้ทัดเทียมสากล รวมถึงลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ เบื้องต้นคาดว่าการก่อสร้างโรงงานผลิตยารักษาโรคมะเร็งจะมีมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าจะเริ่มผลิตยาได้เองในประเทศประมาณปี 2568 3) บริษัท เอสซีจี เคมิคอลล์ จำกัด ในเครือเอสซีจี มีความสนใจที่จะสนับสนุน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล โดยในปี 2560 ได้เริ่มลงทุนคิดเป็นมูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ในกลุ่ม S-Curve 3 อุตสาหกรรมหลัก คือ ปิโตรเคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และอุตสาหกรรมการแพทย์ โดยอุตสาหกรรมการแพทย์ เช่น โครงการผลิตยาชีววัตถุ และวัคซีนขั้นสูง ได้เข้าไปร่วมลงทุนกับ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เพื่อผลิตยาตั้งแต่ระดับตัวยาสำคัญ 9 รายการที่ใช้รักษาโรคมะเร็ง โรคข้ออักเสบ โรคสะเก็ดเงิน และโรคภูมิแพ้ตัวเอง เนื่องจากในประเทศไทยอุตสาหกรรมยาชีววัตถุมีมูลค่าถึง 2,200 ล้านบาท ขณะที่อาเซียนมีมูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท และตลาดโลกอีกกว่า 6.57 แสนล้านบาท (กรุงเทพธุรกิจ, 19 ก.พ. 2561)
Related
more icon
Most Viewed
more icon
  • เผยรายชื่อโรงพยาบาลเอกชนที่สั่งซื้อวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากบริษัทต่างชาติ

    แหล่งข่าวจากวงการโรงพยาบาลเอกชนเปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งต้องการสั่งซื้อวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากบริษัทผู้พัฒนาต่างชาติ (ที่นอกเหนือจากของ AstraZeneca อาทิ Moderna) เพื่อหวังจะนำวัคซีนดังกล่าวมาให้บริการแก่...

    calendar icon08.01.2021
  • ราคาไม้สับเพิ่มขึ้นแตะระดับตันละ 1,300-1,350 บาท สูงสุดในรอบ 10 ปี

    สมาคมการค้าชีวมวลไทยเปิดเผยว่า ปัจจุบันผลผลิตพืชเกษตรหลายประเภท อาทิ อ้อย ลดลงมาก ปริมาณวัสดุเหลือใช้ที่นำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลจึงลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้ความต้องการไม้สับ (Wood Chips) ที่ผลิตจากไม้ยางพารา ไม้ยูคาลิปต...

    calendar icon27.01.2021
  • เอกชนรุกลงทุนโรงพยาบาลใหม่

    สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งทยอยยื่นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อขออนุญาตดำเนินโครงการ ทั้งโครงการใหม่และส่วนต่อขยาย ซึ่ง ...

    calendar icon08.01.2018
link อื่นๆ
  • Relate Preview
  • Relate Preview
Financial Products
  • Finance Preview
  • Finance Preview
  • Finance Preview