ข่าวเศรษฐกิจ

นางฮิลลารี คลินตัน ชนะการดีเบตผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ รอบแรก

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2559 (ตามเวลาท้องถิ่น) ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน และนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตและอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ดีเบตรอบแรกเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ทางด้านนโยบายเศรษฐกิจ การจ้างงานและด้านต่างประเทศ โดยผลการดีเบตเป็นไปตามคาด คือ นางฮิลลารี คลินตัน เอาชนะไปได้โดยอาศัยประสบการณ์และการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี รวมทั้งการควบคุมอารมณ์บนเวทีได้ดีกว่า สะท้อนจากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ชมการประชันวิสัยทัศน์จากหลายสำนักข่าวที่ออกมาในทิศทางเดียวกันว่าคะแนนนิยมของนางฮิลลารีขึ้นนำเหนือนายทรัมป์ อาทิ CNN/ORC ที่ระบุว่า 62% ของผู้ชมการดีเบตให้นางฮิลลารีเป็นฝ่ายชนะ ขณะที่ผู้ชมเพียง 27% ให้นายทรัมป์ชนะ ขณะที่ผลสำรวจของ BBC พบว่านางฮิลลารีชนะ 48% นายทรัมป์ชนะ 46% ทั้งนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นประเด็นที่จะส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะหากนายทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจเอเชียค่อนข้างมาก เนื่องจากนายทรัมป์ มีนโยบายปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศและคัดค้านข้อตกลงการค้าเสรี ซึ่งเห็นว่าทำให้สหรัฐฯ เสียประโยชน์ ทำให้คาดว่าอาจมีการขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม แม้ว่านางฮิลลารีจะมีนโยบายการค้าเปิดเสรีมากกว่านายทรัมป์ แต่ก็เคยแสดงท่าที ไม่พอใจกับการที่หลายประเทศใช้นโยบายเงินอ่อนค่าเพื่อกระตุ้นการส่งออก โดยเฉพาะญี่ปุ่นและจีน ซึ่งทำให้มีแนวความคิดที่จะนำมาตรการทางภาษีมาใช้ตอบโต้ประเทศดังกล่าว ซึ่งอาจนำมาสู่การตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนและญี่ปุ่น จนส่งผลกระทบต่อการเติบโตของการค้าโลกในภาพรวม สำหรับข้อตกลง TPP ที่มีสหรัฐฯ เป็นแกนนำนั้นอาจจะไม่สามารถบังคับใช้ได้ เนื่องจากทั้งนายทรัมป์และนางฮิลลารีล้วนไม่สนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งประเด็นดังกล่าวน่าจะส่งผลดีต่อไทย เนื่องจากจะทำให้เวียดนาม (เข้าร่วม TPP) ไม่ได้แต้มต่อในตลาดสหรัฐฯ ในหลายสินค้าอย่างที่มีการประเมินกันไว้ ทั้งนี้ ยังต้องติดตามการดีเบตที่จะมีขึ้นอีก 2 ครั้ง คือ วันที่ 9 ตุลาคม 2559 และวันที่ 19 ตุลาคม 2559 ก่อนการลงคะแนนเสียงทั่วประเทศในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 (ฐานเศรษฐกิจ, 29 ก.ย. -1 ต.ค. 2559 และสำนักข่าวอินโฟเควสท์, 28 ก.ย. 2559)
Related
more icon
Most Viewed
more icon
  • เผยรายชื่อโรงพยาบาลเอกชนที่สั่งซื้อวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากบริษัทต่างชาติ

    แหล่งข่าวจากวงการโรงพยาบาลเอกชนเปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งต้องการสั่งซื้อวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากบริษัทผู้พัฒนาต่างชาติ (ที่นอกเหนือจากของ AstraZeneca อาทิ Moderna) เพื่อหวังจะนำวัคซีนดังกล่าวมาให้บริการแก่...

    calendar icon08.01.2021
  • ราคาไม้สับเพิ่มขึ้นแตะระดับตันละ 1,300-1,350 บาท สูงสุดในรอบ 10 ปี

    สมาคมการค้าชีวมวลไทยเปิดเผยว่า ปัจจุบันผลผลิตพืชเกษตรหลายประเภท อาทิ อ้อย ลดลงมาก ปริมาณวัสดุเหลือใช้ที่นำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลจึงลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้ความต้องการไม้สับ (Wood Chips) ที่ผลิตจากไม้ยางพารา ไม้ยูคาลิปต...

    calendar icon27.01.2021
  • เอกชนรุกลงทุนโรงพยาบาลใหม่

    สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมามีโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งทยอยยื่นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อขออนุญาตดำเนินโครงการ ทั้งโครงการใหม่และส่วนต่อขยาย ซึ่ง ...

    calendar icon08.01.2018
link อื่นๆ
  • Relate Preview
  • Relate Preview
Financial Products
  • Finance Preview
  • Finance Preview
  • Finance Preview