ข่าวเศรษฐกิจ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า สัญญาซื้อขายยางพารา 2 แสนตัน ระหว่างองค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) กับบริษัท ไชน่า ไห่หนาน รับเบอร์ อินดัสทรี กรุ๊ป จำกัด ของจีน ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 ได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2558 แต่บริษัท ไชน่า ไห่หนานฯ เพิ่งรับมอบยางไปได้เพียง 32,055 ตัน ดังนั้น ในเดือนธันวาคม 2558 การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จึงต้องเร่งตั้งคณะกรรมการระบายยางพาราที่ยังเหลืออีก 167,945 ตันให้แล้วเสร็จโดยไว เพื่อไม่ให้เป็นภาระของรัฐบาลในการจัดเก็บ นอกจากนี้ ยังมีสัญญาแนบท้ายที่บริษัท ไชน่า ไห่หนานฯ จะรับซื้อยางใหม่ในโครงการมูลภัณฑ์กันชน อีก 2 แสนตัน มีกำหนดสิ้นสุดสัญญาในเดือนพฤษภาคม 2559 ซึ่งปัจจุบันมีการรับมอบยางพาราไปแล้ว 5,460 ตัน แต่เนื่องจากสัญญาหลักถูกยกเลิกจึงมีผลให้สัญญาแนบท้ายดังกล่าวถูกยกเลิกด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (ชสยท.) ได้ยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้แก้ปัญหาวิกฤตราคายางพารา โดยดำเนินการให้เกิดการซื้อขายยางพาราแบบ G-to-G ตามแผนที่ ชสยท. จัดทำไว้ ซึ่งเบื้องต้น ชสยท. ได้ตกลงกับรัฐวิสาหกิจจีนที่พร้อมจะร่วมโครงการแล้ว 2 แห่ง คือ Beijing Grain Group และ CMEC General Machinery & Import Co., Ltd. (กรุงเทพธุรกิจ, 10 ธ.ค. 2558)