ข่าวเศรษฐกิจ

สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า เมื่อเดือนสิงหาคม 2558 EU ได้บรรลุข้อสรุปการเจรจาหลักการในสาระสำคัญของ FTA EU-เวียดนาม และคาดว่าเร็วๆ นี้ ทั้งสองฝ่ายจะส่งเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาของตนเองเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ซึ่งจะนำไปสู่การลงนามเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวจะยิ่งทำให้เวียดนามมีความได้เปรียบในการส่งออกสินค้าไป EU เหนือไทยมากยิ่งขึ้น จากภาษีนำเข้าภายใต้ FTA ที่จะลดลงเป็น 0% เกือบทุกรายการ สำหรับสินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ อาทิ รองเท้า เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเดิมเวียดนามก็ส่งออกไป EU ได้มากกว่าไทยอยู่แล้ว เพราะมีนักลงทุนจากหลายประเทศ รวมถึงไทย เข้าไปลงทุน ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่บริษัทจากญี่ปุ่นกว่า 7 พันแห่งย้ายฐานออกจากไทยหลังเกิดมหาอุทกภัยในปี 2554 ขณะที่ค่าย SAMSUNG จากเกาหลีใต้ประกาศจะลงทุนในเวียดนามเพิ่ม กุ้ง ปัจจุบันไทยถูก EU ตัดสิทธิ์ GSP ทำให้ต้องเสียภาษีนำเข้ากุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง 12% และกุ้งแปรรูป 20% ขณะที่เวียดนามยังได้สิทธิ์ GSP จึงเสียภาษีนำเข้าในอัตรา 4.2% และ 7% ตามลำดับ และในอนาคตจะลดเหลือ 0% ภายใต้ FTA จะยิ่งทำให้กุ้งไทยเสียเปรียบกุ้งจากเวียดนาม และข้าว ปัจจุบันไทยและเวียดนามเสียภาษีนำเข้าเท่ากันที่ 145 ยูโร/ตัน ในอนาคตหากเวียดนามไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ไทยจะยิ่งเสียเปรียบเวียดนาม (ฐานเศรษฐกิจ, 24-26 ก.ย. 2558)