ข่าวเศรษฐกิจ

ผลการประชุมประจำปีของสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAISI) มอบหมายให้สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย (ISIT) ศึกษาความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเหล็กในกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงปัจจัยสำคัญ เช่น ค่าแรง ต้นทุนพลังงาน ต้นทุนค่าขนส่ง การขยายตัวของอุตสาหกรรมที่ใช้เหล็กในแต่ละประเทศ รวมถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของอุตสาหกรรมเหล็กแต่ละประเทศ เพื่อวิเคราะห์และวางแผนส่งเสริมให้เกิดการค้าขายเหล็กระหว่างประเทศอาเซียน โดยไม่ให้เกิดปัญหาการทับซ้อนหรือทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง คาดว่าในเดือนพฤศจิกายน 2555 นี้สถาบันฯ จะสามารถสรุปผลการศึกษาเบื้องต้น ทั้งนี้ ปัจจุบันอาเซียนมีการค้าเหล็กระหว่างกันค่อนข้างน้อย เนื่องจากผู้ผลิตเหล็กในอาเซียนมีการผลิตสินค้าเหมือนกัน จึงมีความกังวลด้านการแข่งขัน และทำให้มีการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping Duty : AD) ระหว่างกัน แต่เมื่อพิจารณาถึงการนำเข้าสินค้าเหล็กของสมาชิกอาเซียนแต่ละประเทศ จะพบว่ามีความแตกต่างกัน โดยฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียนำเข้าเหล็กแผ่นหนาค่อนข้างมากเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่อเรือที่รัฐบาลส่งเสริม ขณะที่ไทยและมาเลเซียนำเข้าเหล็กแผ่นเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นหลัก (ฐานเศรษฐกิจ, 5-7 ก.ค. 2555)