ข่าวเศรษฐกิจ

กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ยังไม่ใช้มาตรการจำกัดการส่งออกเนื้อสุกร เพื่อควบคุมราคาจำหน่ายเนื้อสุกรในประเทศ หลังก่อนหน้ามีกระแสข่าวว่าจะจำกัดการส่งออกเนื้อสุกร หากราคาสุกรปรับขึ้นไปสูงกว่ากิโลกรัมละ 80 บาท เนื่องจากราคาสุกรที่ปรับขึ้นไปอยู่สูงกว่ากิโลกรัมละ 80 บาทในขณะนี้ เป็นราคาสุกรสำหรับส่งออก และเป็นราคาสุกรหน้าฟาร์มในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งไม่ใช่พื้นที่เลี้ยงสุกรหลักของประเทศ ขณะที่ราคาสุกรหน้าฟาร์มในพื้นที่ภาคกลางซึ่งเป็นพื้นที่เลี้ยงสุกรกว่า 50% ของประเทศไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น โดยหากราคาจำหน่ายสุกรหน้าฟาร์มในพื้นที่รัศมี 300 กิโลเมตรของกรุงเทพฯ และปริมณฑล สูงเกินกิโลกรัมละ 80 บาท กรมฯ อาจใช้มาตรการจำกัดการส่งออกเข้ามาควบคุม ทั้งนี้ ราคาสุกรที่ปรับตัวขึ้น เป็นผลจากต้นทุนการเลี้ยงสุกรเพิ่มขึ้นจากปัญหาภัยแล้ง ประกอบกับการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ในหลายประเทศ ทำให้เกษตรกรลดปริมาณการเลี้ยงสุกรลง ขณะที่ความต้องการเนื้อสุกรในช่วงเทศกาลตรุษจีนมีส่วนทำให้ราคาสุกรปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าส่งออกสุกรแช่เย็นแช่แข็งของไทยอยู่ที่ 703.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2561 ราว 62.89% ในจำนวนดังกล่าว เป็นการส่งออกไปยังตลาดฮ่องกงราว 71.63% มูลค่า 503.8 ล้านบาท โดยบริษัทผู้ส่งออกเนื้อสุกรไปยังฮ่องกงรายใหญ่ 5 อันดับ ได้แก่ บริษัท อาหารเบทเทอร์ จำกัด ในเครือเบทาโกร บริษัท ไอ-ซีวาย ชยา จำกัด บริษัท กาญจนา เฟรช พอร์ค จำกัด บริษัท วี.ซี.มีท โปรเซสซิ่ง จำกัด และบริษัท ซี พี เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด (ประชาชาติธุรกิจ, 23-26 ม.ค. 2563)