ข่าวเศรษฐกิจ

Reuters รายงานว่า สัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มส่งมอบเดือน พ.ค. 2565 ในตลาดอนุพันธ์มาเลเซีย เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2565 ซื้อขายกันตันละ 6,622 ริงกิต (1,583 ดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 38% จากช่วงต้นปี 2565 ขณะที่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันปาล์มอันดับหนึ่งของโลก มีแผนจะจำกัดการส่งออกน้ำมันปาล์มตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. 2565 เพื่อเพิ่มอุปทานในประเทศ และควบคุมราคาน้ำมันประกอบอาหารที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะออกคำสั่งให้บริษัทต่างๆ ต้องเพิ่มสัดส่วนจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันปาล์มโอเลอีนในประเทศ จากเดิม 20% เป็น 30% โดยเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายข้อบังคับตลาดในประเทศ (DMO) และจะมีผลบังคับใช้อย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งการยกระดับนโยบายในครั้งนี้จะยิ่งทำให้อุปทานน้ำมันพืชในตลาดโลกยิ่งลดลง หลังจากที่ต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดอกทานตะวันรายใหญ่ของโลก ทั้งนี้ LMC International บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจการเกษตรคาดว่า ราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกอาจแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ตันละ 8,100 ริงกิต (1,938 ดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ และราคาน้ำมันปาล์มดิบในมาเลเซียจะอยู่ในระดับตันละ 6,600-8,100 ริงกิต ไปจนถึงเดือน ก.ค. 2565 ก่อนจะปรับลงสู่ระดับตันละ 6,200-7,000 ริงกิต ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่อุปทานเริ่มฟื้นตัวและความต้องการในตลาดลดลง (www.thansettakij.com/, 10 มี.ค. 2565)