ข่าวเศรษฐกิจ

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังนักลงทุนมีความกังวลจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงจนกระตุ้นให้ธนาคารกลางหลายแห่งเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอยและทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค. 2565 ปิดลดลง 4.94 ดอลลาร์สหรัฐ เหลือบาร์เรลละ 81.94 ดอลลาร์สหรัฐ ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. 2565 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือน พ.ย. 2565 ปิดลดลง 4.83 ดอลลาร์สหรัฐ เหลือบาร์เรลละ 88.00 ดอลลาร์สหรัฐ ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. 2565 ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 8 ก.ย. 2565 ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในวันที่ 21 ก.ย. 2565 ขณะที่ธนาคารกลางแคนาดาปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็น 3.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ไปเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2565 นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่จีนประกาศ Lockdown ในหลายเมืองเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของ COVID-19 และความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาดโลก โดยมีการคาดการณ์ว่าหากมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน อิหร่านจะส่งออกน้ำมันได้ถึงวันละ 1 ล้านบาร์เรล หรือคิดเป็น 1% ของอุปทานน้ำมันในตลาดโลก (www.prachachat.net, www.bangkokbiznews.com และ https://siamrath.co.th, 8 ก.ย. 2565)