ข่าวเศรษฐกิจ

คณะกรรมการกำกับกิจพลังงาน (กกพ.) มีมติรับทราบภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (ค่า Ft) งวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นและเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันหน่วยละ 4.72 บาท เป็นหน่วยละ 5.37-6.03 บาท ตามแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนคงค้างที่ กฟผ. แบกรับ 3 กรณีที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ก่อนจะประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 1 ธ.ค. 2565 ดังนี้

กรณีที่ 1 ค่า Ft งวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 หน่วยละ 224.98 สตางค์ แบ่งเป็น Ft ขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 หน่วยละ 158.31 สตางค์ และเงินทยอยเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงบางส่วน หน่วยละ 66.67 สตางค์ เพื่อให้ กฟผ. ได้รับเงินคืนครบภายใน 1 ปี โดย กฟผ. จะต้องบริหารภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชนจำนวน 81,505 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับขึ้นเป็นหน่วยละ 6.03 บาท

กรณีที่ 2 ค่า Ft งวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 หน่วยละ 191.64 สตางค์ แบ่งเป็น Ft ขายปลีกฯ หน่วยละ 158.31 สตางค์ และเงินทยอยเรียกเก็บฯ หน่วยละ 33.33 สตางค์ เพื่อให้ กฟผ. ได้รับเงินคืนครบภายใน 2 ปี โดย กฟผ. จะต้องบริหารภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชนจำนวน 101,881 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับขึ้นเป็นหน่วยละ 5.70 บาท

กรณีที่ 3 ค่า Ft งวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 หน่วยละ 158.31 สตางค์ โดย กฟผ. จะต้องรับภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชนจำนวน 122,257 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับขึ้นเป็นหน่วยละ 5.37 บาท 
(https://mgronline.com, 14 พ.ย. 2565)