ข่าวเศรษฐกิจ

คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบปรับแผนรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดเพิ่มอีก 3,668.5 เมกะวัตต์ (MW) ภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev.1) ในช่วงปี พ.ศ. 2564-2573 (ปรับปรุงเพิ่มเติม ครั้งที่ 2) ที่กำหนดให้เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้นจากเดิม 9,996 MW เป็น 12,700 MW ทั้งนี้ การปรับแผนรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าวเป็นการปรับเพิ่มจากปัจจุบันที่เปิดรับซื้อ 5,203 MW ในโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าประเภทไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 โดยในครั้งนี้จะเปิดรับซื้อทั้งพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Farm) 2,632 MW พลังงานลม 1,000 MW ก๊าซชีวภาพ 6.5 MW และขยะอุตสาหกรรม 30 MW ยกเว้นโซลาร์ฟาร์มที่รวมแบตเตอรี่ที่ยังไม่เปิดรับซื้อ ทั้งนี้ การเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทนอีก 3,668.5 MW ดังกล่าว จะเป็นการเปิดรับซื้อต่อเนื่องหลังจากเสร็จสิ้นการเปิดรับซื้อ 5,203 MW รอบแรก โดยใช้ระเบียบเดียวกับของ กกพ. ในการรับซื้อไฟฟ้า (รูปแบบสัญญา Non-Firm โดยมีอายุสัญญารับซื้อไฟฟ้า 20-25 ปี) ส่วนพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานจะยังไม่มีการรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นการผลิตไฟฟ้ารูปแบบใหม่ที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการทดสอบ ซึ่งคาดว่าจัดหาได้ครบตามเป้าหมายแล้ว

ทั้งนี้ การรับซื้อไฟฟ้าสะอาดที่เพิ่มขึ้นนี้ นอกจากจะช่วยให้รับซื้อไฟฟ้าได้ต่อเนื่องและรวดเร็วขึ้นตามเป้าหมายที่ไทยจะมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emission) ภายในปี 2608 แล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาค่าไฟฟ้าแพงจากการต้องจ่ายค่าความพร้อมจ่าย (AP) ไฟฟ้าลงได้ โดยจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าลงได้ 1 พันล้านบาทในปี 2573 ของแผน PDP 2018 เนื่องจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดต่ำกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล (www.energynewscenter.com, 9 มี.ค. 2566)