ข่าวเศรษฐกิจ

สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสถาบันอาหาร เปิดเผยว่าปัจจัยสนับสนุนการส่งออกอาหารไทยในปี 2566 ได้แก่ 

1. ภาครัฐมีนโยบายฟื้นฟูและการเปิดประเทศหลังสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งภาคอุตสาหกรรมเกษตร อาหาร ท่องเที่ยว บริการ การค้าและการลงทุน
2. การขาดแคลนอาหารตลอด Supply Chain ทำให้มีความต้องการสินค้าอาหารเพิ่มขึ้นในตลาดประเทศกำลังพัฒนา และตลาดในภูมิภาคตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลัง COVID-19
3. ความกังวลเรื่องความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ทำให้หลายประเทศและผู้บริโภคมีความต้องการสำรองอาหารเพิ่มขึ้น  
4. ผลิตภัณฑ์อาหารของไทยมีคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัย ตลอดจนสามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มา ซึ่งเป็นที่ยอมรับของตลาดผู้นำเข้าทั่วโลก
5. จีนเปิดประเทศและยกเลิกมาตรการ Zero COVID ทำให้ปริมาณการค้าเพิ่มขึ้น ระยะเวลาในการขนส่งสั้นลง โดยเฉพาะสินค้าที่มีตลาดทางตอนใต้ของจีน เช่น ไก่แช่แข็ง

อย่างไรก็ตาม คาดว่ายังมีอีกหลายปัจจัยที่จะทำให้การส่งออกไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ได้แก่

1. ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจากราคาพลังงาน อาทิ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน และค่าแก๊ส 
2. เงินบาทผันผวน โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เงินบาทผันผวนในช่วง 33-38 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แต่โดยเฉลี่ยแล้ว เงินบาทแข็งค่าขึ้น 2.6% เทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ
3. ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและปัญหาภาคธนาคารของสหรัฐฯ กระทบกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
4. เงินเยนอ่อนค่าต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของชาวญี่ปุ่น และอาจทำให้นำเข้าสินค้าลดลง
5. เงินเฟ้อสูงในหลายประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศพัฒนาที่เป็นตลาดหลักของไทย เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น กดดันกำลังซื้อ
6. ผลผลิตสินค้าเกษตรที่เป็นวัตถุดิบสำคัญมีปริมาณลดลงและราคาปรับขึ้น เช่น สับปะรดโรงงาน หัวมันสำปะหลัง กุ้ง และปลาทูน่า 

(สำนักข่าวอินโฟเควสท์, 10 พ.ค. 2566)