ข่าวเศรษฐกิจ

กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ว่า จีนจะควบคุมการส่งออกโลหะแกลเลียมและเจอร์เมเนียม รวมทั้งสารประกอบทางเคมีของโลหะทั้ง 2 ชนิด ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2566 เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ โดยผู้ส่งออกต้องยื่นขอใบอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์หากต้องการส่งออกโลหะทั้ง 2 ชนิดไปยังต่างประเทศ รวมทั้งยังต้องยื่นรายงานเพื่อเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ซื้อในต่างประเทศและการยื่นขอใบอนุญาตส่งออกด้วย 

นักวิเคราะห์มองว่าการที่จีนออกประกาศดังกล่าวในวันที่ 3 ก.ค. 2566 ก่อนวันชาติสหรัฐฯ ในวันที่ 4 ก.ค. 2566 และก่อนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะมาเยือนกรุงปักกิ่งในวันที่ 6 ก.ค. 2566 เพียงไม่กี่วัน เป็นการส่งสารไปถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พยายามจะขัดขวางอุตสาหกรรมชิปของจีน และผลักดันพันธมิตรอย่างญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ให้ทำแบบเดียวกัน โดยปัจจุบันรัฐบาลวอชิงตันอยู่ระหว่างการพิจารณาออกมาตรการใหม่เพื่อจำกัดการส่งออกไมโครชิปไฮเทคไปให้จีน หลังจากออกมาตรการมาหลายระลอกในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์จะจำกัดการจำหน่ายอุปกรณ์ผลิตชิปให้จีนเพิ่มเติมอีก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามป้องกันไม่ให้กองทัพจีนได้ใช้เทคโนโลยีของสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งความเคลื่อนไหวเช่นนี้ของจีนก่อให้เกิดความกังวลว่า เป้าหมายต่อไปของจีนอาจเป็นการขยายการจำกัดการส่งออกให้ครอบคลุมถึงแร่หายาก (Rare Earth) เช่นเดียวกับที่จีนเคยจำกัดการจัดส่งเมื่อ 12 ปีก่อนในช่วงที่มีความขัดแย้งกับญี่ปุ่น

ทั้งนี้ Bloomberg รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจาก CRU Group ซึ่งเป็นผู้จัดหาข้อมูลด้านโลหะว่า จีนเป็นผู้ผลิตโลหะแกลเลียมและเจอร์เมเนียมรายใหญ่ของโลก ซึ่งโลหะทั้ง 2 ชนิดเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ยุทธปัจจัยด้านกลาโหม และจอแสดงผล ส่วนประเทศอื่นๆ ที่ผลิตโลหะแกลเลียม ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย และยูเครน ส่วนเจอร์เมเนียมมีการผลิตในแคนาดา เบลเยียม สหรัฐฯ และรัสเซีย (www.thansettakij.com, 4 ก.ค. 2566, https://mgronline.com, 5 ก.ค. 2566 และ www.bangkokbiznews.com, 6 ก.ค. 2566)