ข่าวเศรษฐกิจ

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วๆ นี้กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมจะรายงานความก้าวหน้าการผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมชีวภาพในภูมิภาค (Bio Hub of ASEAN) ภายในปี 2570 พร้อมกับเสนอมาตรการใหม่ๆ เพิ่มเติมเพื่อให้นโยบายภาพรวมชัดเจนและสมบูรณ์ขึ้น รวมถึงจะเสนอให้จัดตั้ง One Stop Service อุตสาหกรรมชีวภาพศูนย์กลางในการประสานงาน อำนวยความสะดวก และลดขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อนให้แก่นักลงทุนที่สนใจ เพื่อบรรลุเป้าหมายการลงทุนในปี 2570 อย่างน้อย 190,000 ล้านบาท เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 85,000 บาท และยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกรอย่างน้อย 800,000 ครัวเรือน

ทั้งนี้ ครม.ได้เห็นชอบมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทย ปี พ.ศ. 2561-2570 ตั้งแต่ปี 2561 และมีการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบเพื่อให้เอื้อต่อการลงทุน เช่น ปรับปรุงประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมให้สามารถตั้งโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบภายในระยะ 50 กิโลเมตร เพิ่มกิจการอุตสาหกรรมชีวภาพ เพื่อแยกอุตสาหกรรมชีวภาพออกจากอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ รวมถึงการแก้ไขผังเมืองเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมชีวภาพในจังหวัดที่มีศักยภาพ เช่น ชัยภูมิ อุบลราชธานี นครสวรรค์ และลพบุรี ล่าสุด สศอ.ได้หารือร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 20 หน่วยงาน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและรับทราบอุปสรรคในการลงทุน ผลการหารือสรุปได้ว่าภาครัฐควรดำเนินการจัดตั้ง One Stop Service และควรจัดกลุ่มอุตสาหกรรมใน Supply Chain ของอุตสาหกรรมชีวภาพ เพื่อให้การกำหนดมาตรการสนับสนุนในแต่ละกลุ่มชัดเจนขึ้น รวมถึงเชื่อมโยงการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพในอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมอาหารเสริม อุตสาหกรรมสมุนไพร และอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง (https://mgronline.com, 20 ก.ค. 2566)