ข่าวเศรษฐกิจ

จากกรณีที่ EU เริ่มไต่สวนว่าจะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้า BEV จากจีนจากที่เรียกเก็บ 10% ในปัจจุบันหรือไม่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าในกรณีที่ EU ขึ้นอัตราภาษีนำเข้าดังกล่าว อาจกระทบการส่งออก BEV จากจีนไป EU ซึ่งผลกระทบจะแตกต่างกันไปในผู้ผลิตแต่ละราย สำหรับไทย คาดว่ามีโอกาสได้รับประโยชน์ เนื่องจากค่ายรถยนต์จีนที่ได้รับผลกระทบมากและมีการลงทุนในไทยอาจส่งออก BEV รุ่นที่ได้รับผลกระทบที่ผลิตในไทยไปยังตลาด EU แทน อย่างไรก็ดี การที่ต้นทุนการผลิตในไทยอาจสูงกว่าในจีน เพราะค่ายรถยนต์จีนเพิ่งเริ่มทำการผลิตในไทยในปี 2567 ทำให้จะยังไม่เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) จึงอาจทำให้ไทยได้โอกาสส่งออกไป EU แทนเพียงบางส่วน 

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่ามีโอกาสที่ไทยจะส่งออก BEV ไป EU ราว 10,000 คัน จากกำลังการผลิต BEV ของค่ายรถยนต์จีนในไทยในปี 2567 ที่มีแนวโน้มจะไม่น้อยกว่า 70,000 คัน ซึ่งแม้จำนวน 10,000 คันจะคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 8% ของยอดจำหน่าย BEV ของค่ายรถยนต์จีนทั้งหมดใน EU ที่อาจจำหน่ายได้ไม่ต่ำกว่า 130,000 คันในปี 2567 แต่ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการส่งออก BEV จากไทยไป EU อย่างไรก็ดี จำนวนส่งออก BEV ไป EU ข้างต้นมีโอกาสต่ำกว่าที่คาดได้ หากคำตัดสินของ EU ออกมาล่าช้าหรือมีประเด็นที่ส่งผลให้ทิศทางการตัดสินของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะจากความไม่ลงรอยกันเองใน EU หรือกรณีที่จีนอาจมีมาตรการตอบโต้ที่อาจกระทบอุตสาหกรรมการผลิต BEV ใน EU (bangkokbiznews.com, 8 พ.ย. 2566)