ข่าวเศรษฐกิจ

สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) คาดว่าการส่งออกในปี 2567 จะเติบโต 1-2% แต่อาจต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงภายนอกที่รุมเร้า และปัญหาเฉพาะหน้าที่คาดการณ์ไม่ได้ โดยในปี 2567 คาดว่ากลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมยังคงเป็นสินค้าที่โดดเด่นและเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้การส่งออกทั้งปีขยายตัวได้ตามเป้าหมาย ส่วนเศรษฐกิจของตลาดที่เป็นความหวัง เช่น สหรัฐฯ และยุโรป ยังอ่อนแอและชะลอตัว จึงจำเป็นต้องเน้นเปิดตลาดใหม่ให้เร็วที่สุด 

สำหรับปัจจัยเฝ้าระวังที่สำคัญในปี 2567 ได้แก่ 1) เงินบาทมีทิศทางแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย 2) อัตราดอกเบี้ยนโยบายหลายประเทศยังทรงตัวในระดับสูง อย่างไรก็ตาม บางประเทศเริ่มมีแนวโน้มทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงแล้วจากสภาวะเงินเฟ้อที่เริ่มผ่อนคลายลง 3) ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อส่งผลกระทบต่อการค้าและเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะสถานการณ์วิกฤต ในทะเลแดง (Red Sea) ซึ่งเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าหลักไปทวีปยุโรปและตะวันออกกลาง ส่งผลให้ค่าระวางเรือสูงขึ้นและใช้ระยะเวลาการขนส่งสินค้านานขึ้น โดยค่าระวางเรือเดือน ธ.ค. 2566 ปรับขึ้นมาก เช่น เส้นทางยุโรป เพิ่มจาก 779 ดอลลาร์สหรัฐต่อ TEU เป็น 2,694 ดอลลาร์สหรัฐต่อ TEU 4) ดัชนีภาคการผลิต (PMI) ของหลายประเทศยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ 5) ความกังวลเรื่องต้นทุนภาคการผลิตที่ยังมีความไม่แน่นอน อาทิ ค่าไฟฟ้า และค่าแรงขั้นต่ำ ทั้งนี้ นอกจากปัจจัยดังกล่าวแล้ว ยังต้องติดตามว่าภัยแล้งจะเข้ามาซ้ำเติมให้ปัญหาที่มีอยู่เดิมรุนแรงขึ้นหรือไม่ (กรุงเทพธุรกิจ, 10 ม.ค. 2567)