ข่าวเศรษฐกิจ

ตามที่การประปานครหลวง (กปน.) ได้ให้สิทธิ์การคิดค่าน้ำประปาในอัตราพิเศษแบบขายเหมา (Bulk Sale) แก่ภาคอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมในอัตราลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ละ 13 บาท มาตั้งแต่ปี 2542 แต่ล่าสุด กปน.ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อขอยกเลิกการให้สิทธิ์ดังกล่าว และเรียกเก็บในอัตราทั่วไปที่คิดแบบขั้นบันได ในอัตราสูงสุดที่ ลบ.ม.ละ 15.81 บาท (เพิ่มขึ้น 21.6%) ซึ่งมีผลในใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปาประจำเดือน ธ.ค. 2566 นั้น  

ผู้ว่าการ กนอ. ระบุว่า ได้มีหนังสือถึงผู้ว่าการ กปน. เพื่อขอให้คงค่าน้ำประปาในอัตราขายเหมาที่ ลบ.ม.ละ 13 บาทออกไปก่อน เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนบรรยากาศการลงทุนที่เพิ่งผ่านพ้นจากช่วง COVID-19 และเพื่อประคองธุรกิจให้อยู่ได้ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจภายในและสถานการณ์โลกที่มีความไม่แน่นอน แต่หาก กปน.ยังยืนยันจะเก็บค่าน้ำประปาในอัตราผู้ใช้น้ำประเภทที่ 2 (ค่าน้ำที่เรียกเก็บจากธุรกิจ ราชการ รัฐวิสาหกิจ อุตสาหกรรม และอื่นๆ) เป็นการทั่วไป ราคาค่าน้ำจะปรับขึ้นอีกราว ลบ.ม.ละ 3 บาท เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในนิคมฯ ใช้น้ำเกิน 200 ลบ.ม. จึงต้องเสียค่าน้ำในอัตราก้าวหน้าที่ 15.81 บาท ทั้งนี้ ผู้ปะกอบการที่จะได้รับผลกระทบ คือ ผู้ประกอบการเกือบ 600 โรงงาน ใน 3 นิคมฯ ที่ กนอ.เป็นผู้ดำเนินการ ได้แก่ นิคมฯลาดกระบัง บางปู และบางชัน ซึ่งกว่า 50% เป็นผู้ประกอบการสินค้าอาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ที่ต้องใช้น้ำในขั้นตอนการผลิตมาก (ฐานเศรษฐกิจ, 14-17 ม.ค. 2567)